แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 29
1
บริการทำความสะอาด: ขจัดคราบน้ำมันในห้องครัว

เรื่องความสะอาดภายในบ้านของเรา เป็นสิ่งที่เราจะต้องดูแลเอาใจใส่อยู่เสมอ เพราะบ้านเป็นสถานที่ที่เราต้องอยู่อาศัยทุกวัน ถ้าปล่อยให้บ้านมีความสกปรก ไม่เช็ดถูทำความสะอาด อาจจะส่งผลต่อสุขภาพของคนในบ้านได้ แถมยังทำให้บรรยากาศภายในบ้านไม่ดีด้วย โดยในบ้านของเรานั้น ก็มีบริเวณที่เป็นจุดสำคัญที่สกปรกได้ง่าย นั่นก็คือ “ห้องครัว”เพราะเป็นบริเวณที่เกิดคราบสกปรกได้ง่าย แถมยังเป็นต้นเหตุของกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ภายในบ้านด้วย ที่อาจจะเกิดจากการทำอาหาร แต่ที่สุดของคราบในห้องครัวก็คือ คราบน้ำมัน ที่สร้างความปวดหัวอยู่บ่อย ๆให้กับแม่บ้านหลายคน 

เพราะเป็นคราบสกปรก ซึ่งเกิดจากไอน้ำมันเวลาที่เราทำอาหาร จึงทำให้กระจายอยู่ทั่วห้องครัวได้ง่ายและยังทำให้เกิดกลิ่นที่น่าปวดหันอีกด้วย อย่างไรก็ตาม คราบมันไม่ได้ทำให้ห้องครัวดูสกปรกเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค อีกทั้งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ โดยเฉพาะคราบมันบนพื้น ซึ่งบางครั้งก็ปล่อยทิ้งไว้นานจนกลายเป็นคราบมันที่ฝังแน่นจนขัดออกยาก ดังนั้น วันนี้เราจะมาพูดถึงวิธีกำจัดคราบน้ำมันในห้องครัว ด้วยวิธีที่ง่ายมากๆ ช่วยให้แม่บ้าน ไม่ต้องออกแรงเยอะ ถูเบาๆ ก็สะอาดแล้ว ด้วยของใช้ที่อยู่ในครัวของเรา

สำหรับวิธีการกำจัดคราบน้ำมัน สามารถทำได้ด้วยหลากหลายวิธี วิธีแรกก็คือ การใใช้น้ำส้มสายชู ด้วยความมีฤทธิ์เป็นกรดของ น้ำส้มสายชู จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขจัดคราบมันและไขมันต่าง ๆ ที่อยู่ตามพื้นและผนังในห้องครัว ที่สำคัญยังช่วยฆ่าเชื้อโรคและดับกลิ่นไม่พึงประสงค์อย่างกลิ่นน้ำมันอันเหม็นหืนได้อีกด้วย โดยวิธีการใช้น้ำส้มสายชูก็ง่ายมาก เพียงฉีดน้ำส้มสายชูลงบนคราบโดยตรง จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำแล้วเช็ดทำความสะอาดทับอีกรอบ เพียงเท่านี้จะเห็นเลยว่าคราบมันต่าง ๆ หายไปแน่นอน หรือบางครั้งคราบน้ำมันอาจจะกระเด็นไปที่ตู้ไม้ที่เก็บของภายในครัว ซึ่งก็มีวิธีที่จะมาแนะนำที่ง่ายก็คือ การใช้เกลือ เบคกิ้งโซดา น้ำอุ่น ฟองน้ำ ผ้าเช็ดแห้ง แต่ถ้าบริเวณตู้ไม้ยังมีหยดของน้ำมันอยู่ ให้โรยเกลือลงไปบริเวณนั้น แล้วทิ้งไว้ซักพัก เกลือจะช่วยดูดความชื้นและน้ำมันทั้งหมดออกมา

แต่ถ้าเป็นคราบที่ฝังลงไปในเนื้อไม้ ให้ใช้เบคกิ้งโซดาผสมกับน้ำอุ่น แล้วใช้ฟองน้ำจุ่มลงไปเพื่อนำมาเช็ดบริเวณที่เป็นคราบ เมื่อทำความสะอาดเสร็จแล้วให้รีบเช็ดด้วยผ้าแห้งทันที เพราะเมื่อวัสดุที่เป็นไม้ได้รับความชื้นจะทำให้ไม้บวม หรือขึ้นราได้ ต่อมาคือใช้น้ำร้อน ในการล้างคราบมันตามจุดต่าง ๆ ในห้องครัวหรือวิธีล้างคราบน้ำมันติดเครื่องดูดควันที่ง่ายที่สุด โดยใช้น้ำร้อน เพราะแค่ใช้ผ้าชุบน้ำร้อนบิดหมาด ๆ แล้วเอาไปเช็ดบริเวณที่มีรอยน้ำมันเกาะ คราบก็จะค่อย ๆ จางหายไปภายอย่างรวดเร็ว แต่ว่าวิธีนี้เหมาะสำหรับล้างคราบน้ำมันที่เกิดขึ้นไม่นานมาก เพราะคราบจะยังไม่ฝังตัวลึก อยู่ในจุดที่น้ำร้อนยังสามารถทำความสะอาดได้ แถมยังไม่ทำให้พื้นผิวลื่นด้วย ต่อมาคือการใช้ผงซักฟอก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีขจัดคราบมันในครัว คือการใช้ผงซักฟอก

เพราะผงซักฟอกสามารถล้างคราบน้ำมันได้ทั้งบริเวณพื้น เตา เครื่องดูดควัน และเครื่องครัวต่าง ๆ โดยนำผงซักฟอกไปผสมกับน้ำอุ่น แล้วหยิบผ้ามาชุบ ก่อนจะนำไปเช็ดคราบต่าง ๆ ซึ่งวิธีนี้จะทำให้คราบน้ำมันหลุดออกอย่างง่ายดาย เนื่องจากผงซักฟอกมีคุณสมบัติกำจัดสิ่งสกปรกอยู่แล้ว แถมยังมีกลิ่นหอมอีกด้วย สามารถช่วยดับกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ในห้องครัวได้อีกด้วย


และสุดท้ายก็มีอีกวิธีหนึ่งที่อาจจะดูแปลก แต่คอนเฟิร์มว่าสามารถกำจัดคราบมันได้ นั่นก็คือ น้ำมันพืช วิธีนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่า ถ้าใช้น้ำมันพืช จะไม่ยิ่งเพิ่มความมันเข้าไปอีกหรือ บอกเลยว่าเข้าใจไม่ผิดแน่นอนเพราะวิธีการใช้น้ำมันขจัดน้ำมัน ก็ได้ผลดีเช่นเดียวกัน ซึ่งวิธีก็คือ ใช้ผ้าขนหนูกระดาษชุบน้ำมันพืช จากนั้นนำไปถูบริเวณที่เป็นคราบน้ำมันหรือไขมันตามห้องครัว ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้คราบมัน เหนียว ที่ติดฝังแน่นหลุดออกง่ายยิ่งขึ้น เสร็จแล้วเราค่อยใช้สเปรย์ทำความสะอาดฉีดตรงบริเวณนั้น แล้วเช็ดออกให้เรียบร้อยอีกครั้ง เพียงเท่านี้ก็สามารถกำจัดคราบน้ำมันออกไปได้อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม อยากให้ทุกครอบครัวได้สร้างบรรยากาศภายในครอบครัวให้มีสิ่งแวดล้อมที่ดีอยู่เสมอ ด้วยการทำความสะอาดบ้านช่องให้น่าอยู่มากยิ่งขึ้น เพราะปัจจัยหลายๆอย่างในบ้านของเรา สามารถสร้างบรรยากาศที่ดีในบ้านได้ ไม่ว่าจะเป็นการที่เราได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีๆ ได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์ เพราะเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดี เพราะสุขภาพที่ดีสามารถทำให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งนี้เรามีบริการทำความสะอาดบ้าน หรือภายในอาคารต่างๆ รวมไปถึงยังมีบริการทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะ ไม่ว่าจะเป็น บริษัท ห้างสรรพสินค้า เพราะเราห่วงใยและใส่ใจในเรื่องสุขอนามัยของลูกค้ามาเป็นอันดับแรกเสมอ

2
ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตนเอง: เส้นประสาทมือถูกพังผืดรัดแน่น / โรคคาร์พัลทูนเนล (Carpal tunnel syndrome/CTS)

เส้นประสาทมือ ที่เรียกว่า ประสาทมีเดียน (median nerve) เมื่อลงมาที่ข้อมือจะวิ่งผ่านช่องเล็ก ๆ ซึ่งประกอบด้วยกระดูกข้อมือและแผ่นพังผืดเหนียว ๆ ที่อยู่ข้างใต้ของกระดูกข้อมือ ช่องเล็ก ๆ นี้มีชื่อเรียกว่า คาร์พัลทูนเนล (ช่องใต้กระดูกข้อมือ) ในบางครั้งเนื้อเยื่อภายในช่องแคบนี้อาจเกิดการบวม ทำให้เส้นประสาทมือถูกบีบรัด เกิดมีอาการปวดหรือชาที่ปลายมือ เรียกว่า โรคคาร์พัลทูนเนล หรือ เส้นประสาทมือถูกพังผืดรัดแน่น

โรคนี้พบได้ค่อนข้างบ่อย มักพบในคนอายุ 30-60 ปี และพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย บางรายอาจพบมีญาติพี่น้องเป็นโรคนี้ด้วย

สาเหตุ

โรคนี้เกิดจากเส้นประสาทมือ (เส้นประสาทมีเดียน) ที่อยู่ในช่องใต้กระดูกข้อมือ (คาร์พัลทูนเนล) ถูกบีบรัด ซึ่งมักไม่พบว่าเกิดจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งอย่างชัดเจน สันนิษฐานว่ามีปัจจัยร่วมกันหลายอย่างที่ส่งเสริมให้เกิดความผิดปกติของเส้นประสาทมือ อาทิ

    มีช่องใต้กระดูกข้อมือ (คาร์พัลทูนเนล) ที่แคบกว่าปกติ ซึ่งพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
    การบาดเจ็บที่ข้อมือ หรือการขยับข้อมือขึ้นลงซ้ำ ๆ ติดต่อกันนาน ๆ (เช่น การพิมพ์ดีด)
    ข้อกระดูกมือมีการอักเสบ (เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์)
    ภาวะบวม (มีน้ำคั่งในเนื้อเยื่อ) ในระยะก่อนมีประจำเดือนหรือระหว่างตั้งครรภ์
    ภาวะอื่น ๆ เช่น ภาวะอ้วน เบาหวาน วัยหมดประจำเดือน ภาวะขาดไทรอยด์ ไตวาย เป็นต้น

อาการ

ผู้ป่วยจะมีอาการปวดแสบปวดร้อน รู้สึกชา หรือรู้สึกซ่า ๆ คล้ายเป็นเหน็บเป็นพัก ๆ ที่มือ (โดยเฉพาะที่นิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง และซีกหนึ่งของนิ้วนางด้านที่ติดกับนิ้วกลาง ยกเว้นนิ้วก้อยและนิ้วนางด้านที่ติดกับนิ้วก้อย) บางครั้งอาจปวดร้าวขึ้นไปที่แขนหรือหัวไหล่ อาการปวดมักจะเป็นมากตอนกลางคืนหรือตอนเช้ามืดจนบางครั้งอาจทำให้ผู้ป่วยสะดุ้งตื่น บางรายเมื่อได้ห้อยข้อมือตรงขอบเตียงหรือสะบัดมือจะรู้สึกทุเลาได้

การทำงานโดยใช้ข้อมือ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในท่างอข้อมือมาก ๆ หรือเร็ว ๆ เช่น กวาดบ้าน ถูบ้าน พิมพ์ดีด) งอข้อมือเร็ว ๆ อาจทำให้เกิดอาการปวดหรือชาได้ ถ้าเป็นมากอาจทำให้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วอื่น ๆ ชาและอ่อนแรงได้ อาการอาจเกิดที่มือข้างเดียวหรือ 2 ข้างก็ได้

ในรายที่เป็นระหว่างตั้งครรภ์ หลังคลอดอาการมักจะหายไปได้เอง


ภาวะแทรกซ้อน

หากปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ ไม่รับการรักษา อาจทำให้กล้ามเนื้อฝ่ามือบริเวณใต้นิ้วโป้งลีบและอ่อนแรงอย่างถาวรได้


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ ดังนี้

การกดหรือเคาะที่ข้อมือ (ตรงด้านเดียวกับฝ่ามือ) อาจกระตุ้นให้เกิดอาการปวดแปลบ ๆ หรือชาที่ปลายนิ้วมือได้

อาจทำการทดสอบโดยให้ผู้ป่วยวางหลังมือ 2 ข้างชนกันในท่างอข้อมือให้มากที่สุด และนิ้วมือชี้ลงพื้นนาน 60 วินาที ผู้ที่เป็นโรคนี้อาจมีอาการปวดหรือชาปลายนิ้วมือ (นิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง และซีกหนึ่งของนิ้วนางด้านที่ติดกับนิ้วกลาง) เรียกการทดสอบนี้ว่า Phalen’s sign

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการตรวจคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อ (electromyography/EMG) และการตรวจอัตราความเร็วของการนำกระแสประสาท (nerve conduction velocity test) 


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

ถ้าเป็นเพียงเล็กน้อย จะให้กินยาแก้ปวด ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (เช่น ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแนก ไพร็อกซิแคม นาโพรเซน) และแนะนำให้ใส่อุปกรณ์ช่วยดามข้อมือเวลาเข้านอน

บางรายอาจต้องฉีดสเตียรอยด์เข้าที่ข้อมือข้างที่ปวด

การรักษาดังกล่าว ส่วนใหญ่อาการมักจะทุเลาได้

ส่วนน้อยที่มีอาการมาก อาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัด (โดยตัดแผ่นพังผืดที่บีบรัดเส้นประสาท) ซึ่งจะช่วยให้อาการทุเลาภายในเวลาไม่กี่วัน

ในรายที่ตรวจพบมีภาวะอื่นร่วมด้วย (เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ เบาหวาน ภาวะขาดไทรอยด์ ไตวาย) แพทย์ก็จะให้การรักษาโรคเหล่านี้พร้อมกันไปด้วย


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการปวดแสบปวดร้อน รู้สึกชา หรือรู้สึกซ่า ๆ คล้ายเป็นเหน็บเป็นพัก ๆ ที่มือ ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นเส้นประสาทมือถูกพังผืดรัดแน่น ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา ใส่อุปกรณ์ช่วยดามข้อมือ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ 
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    เวลาทำงานที่ใช้ข้อมือนาน ๆ ควรมีการพักข้อมือบ่อย ๆ
    หมั่นบริหารมือ โดยการหมุนข้อมือและยืดเหยียดฝ่ามือและนิ้วมือ
    ลดน้ำหนักตัวถ้ามีภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วน
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน ถ้ากินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา (เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายอุจจาระดำ ท้องเดิน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ) ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด


การป้องกัน

เนื่องจากโรคนี้เกิดจากปัจจัยร่วมกันหลายอย่าง จึงยังไม่มีวิธีป้องกันที่ได้ผลเต็มที่

สำหรับผู้ที่เคยมีอาการของโรคนี้ อาจป้องกันไม่ให้กำเริบด้วยการปฏิบัติตัวเพื่อลดแรงกดดันต่อมือและข้อมือ ดังนี้

    เวลาทำงานที่ใช้ข้อมือ หมั่นพักข้อมือบ่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องใช้มือออกแรงมากหรือใช้อุปกรณ์ที่มีการสั่น
    หมั่นบริหารมือบ่อย ๆ โดยการกำมือ สลับกับการยืดเหยียดฝ่ามือและนิ้วมือ ทำซ้ำ 5-10 ครั้ง
    หลีกเลี่ยงการเหยียดและงอข้อมือขึ้นลงซ้ำ ๆ คอยรักษาข้อมือให้อยู่ในท่าตรงและผ่อนคลาย เช่น เวลาใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ จัดวางเครื่องให้คีย์บอร์ดอยู่ระดับเดียวกับข้อศอกหรือต่ำกว่าข้อศอก
    เวลานั่งทำงาน รักษาหลังให้ตรง และเท้าสองข้างวางราบบนพื้น
    ใส่อุปกรณ์ช่วยดามข้อมือ


ข้อแนะนำ

1. หากมีอาการที่สงสัยว่าจะเป็นโรคนี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาแต่เนิ่น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่สามารถรักษาได้ด้วยวิธีใช้ยา ส่วนน้อยที่อาจต้องผ่าตัดแก้ไข ซึ่งช่วยให้หายขาดได้ และไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงใด ๆ แต่ถ้าปล่อยปละละเลย อาจทำให้กล้ามเนื้อฝ่ามือลีบและอ่อนแรงอย่างถาวรได้

2. อาการปวดแสบปวดร้อนมือ หรือมือชา นอกจากโรคนี้แล้ว ยังอาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น เบาหวาน ปลายประสาทอักเสบ กระดูกคองอกกดรากประสาท เป็นต้น ในการวินิจฉัยแพทย์อาจทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติม เช่น เอกซเรย์ ตรวจเลือด เป็นต้น

3
การจัดฟันเด็ก เครื่องมือกันฟันล้มในเด็ก คืออะไร

เด็กไทยส่วนใหญ่ มีปัญหาในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน โดยเฉพาะเรื่องของการเกิดฟันผุ ถือว่าพบมากในเด็ก ส่วนใหญ่จะมีฟันผุตั้งแต่ยังเป็นฟันน้ำนม โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดฟันน้ำนมผุ มาจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่ผู้ปกครอง ซึ่งอาจจะเริ่มต้นตั้งแต่วัยทารก เช่น การปล่อยให้เด็กนอนหลับคาขวดนม ทำให้น้ำตาลที่อยู่ในนม สามารถเข้าไปทำลายเคลือบฟันของเด็กได้ เพราะคราบจุลินทรีย์จะย่อยน้ำตาลในนมที่ค้างอยู่บนผิวฟัน ทำให้เกิดการสะสมของกรด ละลายผิวฟันเป็นรู

นอกจากนี้ ปัญหาฟันน้ำนมผุ ยังอาจเกิดได้จากโครงสร้างของฟันเด็กที่ไม่สมบูรณ์ และสาเหตุที่สำคัญที่ทำให้เด็กไทยสมัยนี้มีฟันผุง่ายก็คือ การรับประทานขนมที่มีส่วนผสมของน้ำตาลเยอะ เคี้ยวลูกอม หมากฝรั่ง  แล้วไม่ยอมแปรงฟันหรือทำความสะอาดช่องปากและฟันไม่ดีเท่าที่ควร  ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองหลายท่าน มักมีความเชื่อผิดๆ ว่า เดี๋ยวฟันน้ำนมก็ต้องหลุดไป มีฟันแท้มาแทนที่ จึงไม่ได้ใส่ใจการรับประทานขนมและการแปรงฟันของลูกมากนัก และลูกก็ยังไม่สามารถทำความสะอาดฟันอย่างมีประสิทธิภาพได้ด้วยตัวเอง จึงทำให้ฟันผุได้ง่าย จนบางครั้งอาจจะทำให้เกิดการสูญเสียฟันตั้งแต่อายุยังน้อย หรือสูญเสียฟันน้ำนมก่อนเวลาอันควร

ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะส่งผลต่อลักษณะการขึ้นของฟันแท้ อาจจะทำให้เกิดฟันเก ฟันซ้อน หรือฟันแท้หายได้ ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองควรรีบพาบุตรหลานเข้ารับการแก้ไข หรืออาจจะพาลูกเข้าพบทันตแพทย์จัดฟัน เพื่อเข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพราะในวัยเด็กก็สามารถข้ารับการจัดฟันได้ตั้งแต่อายุ 4-15 ปี เพราะเด็กในวัยนี้มักจะมีปัญหาในเรื่องของฟันผุมาก ซึ่งนอกจากการจัดฟันในเด็กแล้ว ก็ยังมีตัวช่วยซึ่งเป้นเครื่องมือที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาฟันล้มได้ บางครั้งเด็กที่มฟันผุและสูญเสียฟัน มีโอกาสที่จะเกิดฟันล้มได้สูง ดังนั้น เครื่องมือดังกล่าว ก็สามารถป้องกันฟันล้มได้

ซึ่งเครื่องมือกันฟันล้มนั้น เด็กควรใส่ก็ต่อเมื่อมีการสูญเสียฟันน้ำนมก่อนวัยอันควร โดยทันตแพทย์จะพิจารณาให้ใส่เครื่องมือกันช่องว่างระหว่างฟัน เพื่อป้องกันเอาไว้ เพราะถ้าหากปล่อยไว้และไม่ใส่เครื่องมือกันฟันล้ม อาจจะทำให้เกิดปัญหาฟันล้มเอียงมาทางช่องว่างระหว่างฟันนั้น ทำให้ฟันแท้ขึ้นผิดตำแหน่ง ฟันซ้อนเกทำให้สูญเสียความสวยงาม และอาจจะทำให้เด็กมีนิสัยที่ผิดปกติ เช่น เอาลิ้นมาดุนช่องว่างที่เกิดขึ้น

กระดูกเบ้าฟันหนาตัว มีผลให้ฟันแท้ที่อยู่ข้างใต้ขึ้นช้ากว่าปกติได้ อย่างไรก็ตาม เครื่องมือกันฟันล้มนี้ ก็มีด้วยกัน 2 แบบคือ แบบถอดได้ เครื่องมือคงสภาพฟันชนิดที่สามารถใส่และถอดมาทำความสะอาดได้เอง กับอีกแบบหนึ่งคือ แบบติดแน่น เครื่องมือคงสภาพชนิดติดแน่น ไม่สามารถถอดเครื่องมือออกได้ ซึ่งเครื่องมือกันฟันล้มนี้ มีประโยชน์คือ สามารถช่วยรักษาช่องว่างระหว่างฟันได้ ช่วยทำให้ฟันแท้ขึ้นได้ตามปกติและอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ป้องกันปัญหาฟันเกหรือฟันขึ้นผิดที่ได้ ซึ่งถือว่ามีประโยชน์มาก นอกจากนี้ เมื่อเด็กติดตั้งเครื่องมือกันฟันล้มในช่องปากแล้ว พ่อแม่หลายคนกังวลว่าเจ็บไหม

บอกเลยว่า ไม่เจ็บ แต่อาจจะทำให้รู้สึกรำคาญได้ในช่วงแรก ซึ่งเด็กมักปรับตัวได้เร็ว สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใดที่มีบุตรหลานของท่านมีปัญหาฟันล้ม ก็สามารถแก้ไขเบื้องต้นได้ด้วยการใช้เครื่องมือกันฟันล้ม หรือถ้าหากอยากแก้ไขปัญหาฟันในเด็กในระยะยาว ก็สามารถพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็กได้ เพราะถือว่า การจัดฟันในเด็ก จะสามารถแก้ไขปัญหาฟันในเด็กได้ดีกว่า และยังช่วยเสริมสร้างในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันในเด็กได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใดอยากพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก สามารถพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการรักษาได้ที่คลินิก เพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการจัดฟันในเด็ก และมีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน ที่จะคอยให้คำแนะนำและวิธีการทำความสะอาดช่องปากและฟันอย่างถูกต้อง สามารถช่วยพูดทำความเข้าใจและสร้างทัศนคติให้เด็กเกี่ยวกับการดูแลรักษาความสะอาดช่องปากและฟันได้ เพื่อให้เด็กได้มีความเข้าใจและรักษาความสะอาดฟันได้อย่างถูกต้อง เพื่อทำให้มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพื่อที่จะได้มีพัฒนาการที่ดี และมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

4
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


5
เคล็ดลับการเลือก รถรับจ้างราคาถูก แบบไหนถึงจะคุ้มเรา?

การเลือก รถรับจ้างขนย้ายบ้าน ในกระบวนการย้ายบ้านหรือขนของทั่วไปเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่มีผลต่อประสบการณ์ทั้งหมดของคุณ โดยการทำความเข้าใจเกี่ยวกับเนื้อหาในบทความนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและสอดคล้องกับความต้องการของคุณ:

 
การเลือกรถรับจ้างขนย้ายบ้าน: ทำอย่างไรให้ราคาไม่แพงและบริการดี?

1. วิเคราะห์ความต้องการของคุณ:

เริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจกับปริมาณของของที่คุณต้องการย้าย และระยะทางที่จะเดินทาง นี้จะช่วยให้คุณสามารถกำหนดความจุที่เหมาะสมของรถรับจ้างที่คุณต้องการ. ว่าจะเลือกรถรับจ้างขนของแบบไหน จะ รถกระบะรับจ้าง หรือ รถ4ล้อรับจ้าง หรือ รถหกล้อรับจ้างขนย้ายบ้าน เป็นต้น

2. เปรียบเทียบราคา:

เปรียบเทียบราคาระหว่างบริษัทรถรับจ้างที่มีในพื้นที่ของคุณ อย่าลืมให้ขอใบเสนอราคาและความสามารถในการตกลงราคาเพิ่มเติมให้ได้ราคาที่เหมาะสม

3. ความน่าเชื่อถือของบริษัท:

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเชื่อถือและความซื่อสัตย์ของบริษัทรับจ้าง ดูรีวิวจากลูกค้าก่อนหน้าและแนะนำจากคนที่คุณรู้จักรวมถึงประสบการณ์ในการ ขนย้ายบ้าน เช่น ศิริภักดีขนส่ง

4. ความสามารถในการจัดการกับของ:

ตรวจสอบว่าบริษัทมีความสามารถในการจัดการกับประเภทของของที่คุณมี เช่น ของที่มีขนาดใหญ่,ตู้เสื้อผ้า ทีวี ตู้เย็น เฟอร์นิเจอร์ หรือวัตถุที่บอกเลยว่าอยู่ในประเภทของ "พิเศษ." ต้องปลอดภัย

5. สอบถามเรื่องประกัน:

ถามเรื่องประกันที่บริษัทรับจ้างมี มีการคุ้มครองทั้งที่เกี่ยวกับความคุ้มครองของของและความปลอดภัยขณะขนย้ายหรือไม่.

6. ตรวจสอบเอกสาร:

ก่อนที่คุณจะตกลงทำธุรกรรมกับบริษัท รถรับจ้าง ตรวจสอบเอกสารทั้งหมดอย่างรอบคอบ เช่น ใบเสนอราคา, สัญญา, และใบรับรองการประกัน.

7. สอบถามเรื่องบริการเพิ่มเติม:

ถามเกี่ยวกับบริการที่อาจจะเสริมค่าให้ เช่น การช่วยเตรียมของ, การติดตั้ง, การยกของ หรือบริการที่สามารถทำให้กระบวนการย้ายของคุณง่ายขึ้น.

8. ทดลองติดต่อ:

ทดลองติดต่อบริษัท รถรับจ้างขนย้ายบ้าน โดยการสอบถามคำถามและดูว่าพวกเขาให้บริการลูกค้าดีแบบไหน.

9. เช็คระยะเวลา:

สอบถามเรื่องระยะเวลาที่รถรับจ้างจะใช้ในการขนของของคุณ และแนะนำให้ติดตามสถานะของรถขณะที่อยู่ในระหว่างขนย้าย

10. ไม่ลืมการตรวจสอบประกันรถ:

ตรวจสอบว่ารถที่จะให้บริการมีประกันภัยเพียงพอหรือไม่.

การเลือกรถรับจ้างเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการย้ายของ การวางแผนอย่างถูกต้องและการเลือกบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญจะช่วยให้คุณมั่นใจและทำให้กระบวนการนี้เป็นประสบการณ์ที่ราบรื่น.

รถรับจ้างขนของ

    เมื่อคุณ ขนย้ายบ้าน มีของหลายชนิดที่ต้องถอดประกอบและติดตั้งใหม่ อะไรบ้าง

เฟอร์นิเจอร์:

ตู้เสื้อผ้า

โต๊ะ

เตียง

ตู้เสื้อผ้า

โต๊ะทำงาน

ตู้ทีวี

ชั้นวางของ

อุปกรณ์ทำครัว:

ไมโครเวฟ

ตู้เย็น

เตา

กระทะ

เครื่องครัวทั่วไป (เช่น เครื่องทำน้ำอุ่น, เครื่องทำกาแฟ)

เครื่องใช้ไฟฟ้า:

ทีวี

เครื่องซักผ้า

เครื่องอบผ้า

เครื่องดูดฝุ่น

เครื่องปรับอากาศ

ของใช้ทั่วไป:

โคมไฟ

ผ้าม่าน

กระจก

โปสเตอร์หรือรูปภาพ

หนังสือ, วัสดุการอ่าน

การ์เมนต์และตกแต่ง:

ผ้าม่าน

ภาพวาด

ตกแต่งห้อง

พวงกุญแจและรูปแบบตกแต่ง

เครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนตัว:

ไอรอน

หม้อนึ่ง

เครื่องปรับผม

กระจกแปรงสี

เครื่องนวดหลัง

เครื่องใช้ทั้งหมดในห้องน้ำ:

กระจก

ไว้รีดผม

ตะแกรงระบายน้ำ

กล่องของใช้ส่วนตัว

ของเล่นและของเล่นสำหรับเด็ก:

ของเล่นต่าง ๆ

สมุดภาพ

ลูกบอล

จักรยาน

อุปกรณ์ทำสวน:

กรรไกร

รถเข็นหญ้า

ถุงปุ๋ย

กระบองต้นไม้

ของใช้ที่อาจต้องเคลื่อนย้ายด้วยตนเอง:

กล่องของทั่วไป

กระสอบ

กระเป๋าเดินทาง

กล่องอุปกรณ์

ทั้งนี้หากมีของที่คุณต้องการอย่างเฉพาะ เช่น บริการรถรับจ้างไปยังที่ใหม่ กรุณาตรวจสอบเป็นรายเฉพาะเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีของสำคัญที่ลืมถอดหรือติดตั้งในที่ใหม่ของคุณ.

รถรับจ้างพร้อมคนยก

การเลือกใช้ รถหกล้อรับจ้างขนย้ายบ้าน (ที่มักเป็นรถบรรทุก) ในกระบวนการย้ายบ้านมีเหตุผลหลายประการที่ทำให้เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับบางคน

ความจุของพื้นที่:

รถหกล้อมักมีพื้นที่ในการจัดเก็บของมากกว่ารถกระบะ. นี้มีผลให้คุณสามารถย้ายของได้มากมายในการเดียว, ลดจำนวนครั้งที่ต้องเคลื่อนย้าย.

การขนส่งของใหญ่:

รถหกล้อรับจ้าง มีความสามารถในการขนของที่มีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมาก. นั่นหมาะสำหรับบ้านที่มีเฟอร์นิเจอร์หรือของใหญ่ๆ ที่ต้องการการขนส่ง.

ความคุ้มค่าทางการเงิน:

การ เช่ารถหกล้อรับจ้าง อาจมีราคาที่คุ้มค่ากว่าการใช้รถกระบะหลายครั้ง. ค่าบริการมักจะขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งที่ใช้บริการ, ระยะทาง, และปริมาณของของ.

ความสะดวกสบาย:

การใช้รถหกล้อรับจ้างทำให้การย้ายของเป็นไปอย่างสะดวกสบาย โดยคุณไม่ต้องทำมากนักในการจัดเตรียมของหรือการเคลื่อนย้าย.

ความปลอดภัยของของ:

รถหกล้อมักมีระบบที่ดีเพื่อความปลอดภัยของของที่ถูกขนย้าย ส่วนใหญ่ของบริษัทรถรับจ้างที่มีความเชี่ยวชาญมักจะป้องกันของที่ถูกขนย้ายอย่างดี.

ลดเวลาและพลังงาน:

การใช้รถหกล้อรับจ้างช่วยลดเวลาและพลังงานที่ใช้ในการเคลื่อนย้าย เนื่องจากคุณสามารถย้ายของได้มากในการเดียว.

การขนส่งไกล:

หากคุณย้ายไปยังที่ที่ห่างไกล ขนย้ายของไปต่างจังหวัด  การใช้รถหกล้อรับจ้างสามารถเป็นตัวเลือกที่สะดวกและประหยัดเวลา.

แม้ว่ารถหกล้อรับจ้างจะมีข้อได้เปรียบในบางกรณี, ควรพิจารณาความต้องการและปริมาณของของที่คุณต้องการย้ายเพื่อตัดสินใจว่ามันเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณ.
   
การเช็คตรวจสอบสินค้าหลังการขนย้ายของเสร็จ

เป็นขั้นตอนที่สำคัญเพื่อให้คุณตรวจสอบว่าสินค้าของคุณถูกขนย้ายไปถึงที่หมายอย่างปลอดภัยและสมบูรณ์. ตรวจสอบสินค้าให้ละเอียดเป็นขั้นตอนสำคัญเพื่อตรวจสอบว่าไม่มีความเสียหายหรือขาดหายในกระบวนการขนย้าย. นี่คือขั้นตอนที่ควรทำ:


ตรวจสอบตามรายการ:

เริ่มต้นโดยตรวจสอบสินค้าตามรายการที่คุณได้ทำไว้ก่อนการขนย้าย. ในกรณีที่มีรายการของ, ตรวจสอบว่าทุกรายการตรงกับรายการที่คุณมี.


ตรวจสอบสภาพของกล่องหรือบรรจุภัณฑ์:

ตรวจสอบว่ากล่องหรือบรรจุภัณฑ์มีสภาพไม่เสียหาย. ถ้ามีการบีบอัดหรือแตกร้าว, อาจมีโอกาสทำให้สินค้าภายในเสียหาย.


เปิดและตรวจสอบทีละชิ้น:

เปิดกล่องหรือบรรจุภัณฑ์และตรวจสอบทีละชิ้นของ. ตรวจสอบว่าสินค้ามีสภาพปกติ, ไม่มีคราบหรือรอยถลอก.


ถ่ายรูปสินค้า:

ถ่ายรูปสินค้าทุกชิ้นก่อนที่คุณจะเอาออกจากบรรจุภัณฑ์. รูปภาพเหล่านี้สามารถเป็นหลักฐานที่ดีในกรณีที่คุณต้องการทำประกันหรือเรียกร้องค่าเสียหาย.


ตรวจสอบรอยทานหรือคราบ:

ตรวจสอบสินค้าเพื่อหารอยทาน, คราบ, หรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในการขนย้าย. รับรู้ถึงสถานะของสินค้าและแจ้งให้บริษัทรับจ้างทราบถ้ามีปัญหา.


ตรวจสอบสินค้าพิเศษ:

สำหรับสินค้าที่มีความพิเศษหรือแปลกปลอม, ตรวจสอบว่ามีความสมบูรณ์และไม่มีความเสียหาย.


ลงลายมือชื่อหรือรับรอง:

เมื่อคุณตรวจสอบสินค้าเสร็จ, ลงลายมือชื่อหรือรับรองในเอกสารที่ระบุสภาพของสินค้า. นี้เป็นการยืนยันว่าคุณได้รับสินค้าในสภาพที่ดี.


รายงานปัญหา:

หากคุณพบปัญหาหรือความเสียหาย, แจ้งให้บริษัทรับจ้างทราบทันทีและเก็บหลักฐานเพื่อให้มีหลักฐานในการเรียกร้อง.

การทำขั้นตอนนี้ช่วยให้คุณมั่นใจว่าสินค้าของคุณถูกนำมาถึงที่หมายอย่างปลอดภัยและสมบูรณ์ และทำให้คุณสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ในกรณีที่มีความเสียหายหรือขาดหาย.

6
ไอเดียแต่งบ้านสไตล์มินิมอล พร้อมเทคนิคการเลือกของตกแต่งบ้านให้สวยลงตัว

การแต่งบ้านสไตล์ มินิมอล (Minimalist) คือการสร้างสรรค์พื้นที่ที่เรียบง่าย สะอาดตา และเน้นฟังก์ชันการใช้งานเป็นหลักค่ะ เป็นสไตล์ที่ตัดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป คงไว้ซึ่งความสงบและโปร่งสบาย เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความไม่ซับซ้อนและต้องการพื้นที่ที่ช่วยให้จิตใจสงบ ลองมาดูไอเดียง่ายๆ ในการแต่งบ้านพร้อมเทคนิคการเลือกของตกแต่งให้สวยลงตัวกันค่ะ


หลักการสำคัญของสไตล์มินิมอล

น้อยแต่มาก (Less is More): เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งเท่าที่จำเป็นจริงๆ แต่เน้นคุณภาพและดีไซน์ที่โดดเด่น

ฟังก์ชันต้องมาก่อน (Form Follows Function): ทุกชิ้นต้องมีประโยชน์ใช้สอย ไม่ใช่แค่สวยงามอย่างเดียว

ความสะอาดและเป็นระเบียบ: บ้านสไตล์มินิมอลต้องจัดระเบียบอยู่เสมอ ไม่มีของวางเกะกะ หรือของที่ไม่จำเป็น

โทนสีเรียบง่าย: เน้นสีกลางๆ เป็นหลัก เพื่อให้รู้สึกสบายตาและสงบ

ไอเดียง่ายๆ ในการแต่งบ้านสไตล์มินิมอล


1. กำหนดโทนสีหลัก

สีขาว: เป็นสีพื้นฐานที่ดีที่สุดสำหรับผนังและเพดาน เพื่อให้บ้านดูกว้างขวาง สว่าง และสะอาดตา

สีรอง: เพิ่มความอบอุ่นด้วยสีกลางๆ อย่าง สีเบจ ครีม เทาอ่อน หรือ สีไม้ธรรมชาติ สำหรับเฟอร์นิเจอร์หลักๆ และพื้นผิวอื่นๆ

สีเน้น (Accent Color): อาจมีสีเข้มหรือสีพาสเทลเล็กน้อยสำหรับของตกแต่งชิ้นเล็กๆ เพื่อไม่ให้บ้านดูจืดชืดเกินไป แต่ควรเป็นสีที่ไม่ฉูดฉาด หรือเป็นสีที่ได้จากธรรมชาติ เช่น สีเขียวจากต้นไม้


2. เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เรียบง่ายและใช้งานได้จริง

จำเป็นเท่านั้น: เลือกเฟอร์นิเจอร์เท่าที่จำเป็นจริงๆ เช่น เตียง โซฟา โต๊ะทำงาน ชั้นวางของที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต

ดีไซน์เรียบง่าย: เฟอร์นิเจอร์ควรมีรูปทรงเรขาคณิต เส้นสายสะอาดตา ไม่มีลวดลายแกะสลักหรือตกแต่งเยอะ

วัสดุ: เน้นวัสดุอย่าง ไม้เนื้ออ่อน (เช่น ไม้โอ๊ค เมเปิล) โลหะสีดำ/ขาวด้าน ผ้าฝ้าย ลินิน

ฟังก์ชันซ่อนเร้น: เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีฟังก์ชันการจัดเก็บในตัว เช่น โซฟาเบด เตียงที่มีลิ้นชัก หรือ โต๊ะกลางที่มีช่องเก็บของ เพื่อซ่อนสิ่งของไม่ให้รกตา


3. การจัดวางและการจัดระเบียบ

เว้นพื้นที่ว่าง: จัดวางเฟอร์นิเจอร์โดยเหลือพื้นที่ว่างรอบๆ เพื่อให้บ้านดูโปร่ง โล่งสบาย ไม่แน่นทึบ

จัดระเบียบอยู่เสมอ: เก็บของให้เข้าที่เข้าทาง อาจใช้ กล่องเก็บของ หรือ ลิ้นชัก สำหรับซ่อนของที่ไม่อยากให้เห็น

พื้นที่แนวดิ่ง: ใช้ประโยชน์จากผนังด้วย ชั้นวางของลอยตัว เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของโดยไม่กินพื้นที่พื้น


4. แสงสว่าง

แสงธรรมชาติ: พยายามให้แสงธรรมชาติเข้ามาในบ้านให้มากที่สุด อาจใช้ ผ้าม่านโปร่งแสงสีอ่อนๆ

โคมไฟ: เลือกโคมไฟที่มีดีไซน์เรียบง่าย ทันสมัย หรือสไตล์สแกนดิเนเวีย ให้แสงสี วอร์มไวท์ (Warm White) เพื่อเพิ่มความอบอุ่นและความผ่อนคลาย


เทคนิคการเลือกของตกแต่งบ้านให้สวยลงตัว

ของตกแต่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเติมเต็มบ้านสไตล์มินิมอลให้มีชีวิตชีวา แต่ต้องเลือกอย่างพิถีพิถันและมีเป้าหมาย


1. เน้นเส้นสายเรียบง่าย

หลักการ: เลือกของตกแต่งที่มี รูปทรงเรขาคณิตที่ชัดเจน เช่น ทรงกลม สี่เหลี่ยม กระบอก หรือเส้นตรงที่สะอาดตา ไม่มีลวดลายซับซ้อน หรือรายละเอียดฟุ่มเฟือย

ตัวอย่าง: แจกัน ทรงกระบอกสีขาวเรียบๆ, โคมไฟ ฐานไม้ดีไซน์เส้นตรง, กรอบรูป ขอบบางสีดำหรือขาว


2. เลือกใช้วัสดุธรรมชาติ หรือวัสดุที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น/ทันสมัย

ไม้: เพิ่มความอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ เช่น แจกันไม้ ทรงเรียบๆ, กล่องเก็บของไม้, เชิงเทียนไม้

โลหะ: เพิ่มความโมเดิร์นและความเนี้ยบ เช่น แจกันโลหะ สีดำด้าน, โคมไฟตั้งโต๊ะ โครงโลหะ, นาฬิกาติดผนัง ดีไซน์บางเฉียบ

เซรามิก: ให้ความรู้สึกเรียบง่าย อบอุ่น และเป็นงานศิลปะ เช่น แจกันเซรามิก ผิวด้าน, ชุดถ้วยกาแฟ สีขาว/เบจ

แก้ว: เพิ่มความโปร่ง โล่ง และหรูหราเล็กน้อย เช่น แจกันแก้วใส, ขวดสเปรย์หอม


3. เพิ่มชีวิตชีวาด้วย "สีเขียว" และ "กลิ่นหอม"

ต้นไม้: ต้นไม้มงคล หรือ ต้นไม้ฟอกอากาศ ที่ดูแลรักษาง่าย เช่น ลิ้นมังกร, ยางอินเดีย, มอนสเตอร่า, พลูด่าง ช่วยเพิ่มความสดชื่นและเชื่อมโยงกับธรรมชาติ

เทคนิค: เลือก กระถางเซรามิก สีขาว เทา ดำ หรือกระถางดินเผาทรงเรียบง่าย ไม่มีลวดลายเยอะ

เครื่องหอม: เทียนหอม หรือ ก้านหอมปรับอากาศ กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ช่วยผ่อนคลาย เช่น กลิ่นชาขาว, ลาเวนเดอร์, ยูคาลิปตัส

เทคนิค: เลือกแบบที่มี บรรจุภัณฑ์สวยงาม และเรียบง่าย เช่น ขวดแก้วใส หรือภาชนะเซรามิก


4. สร้างจุดโฟกัสด้วยงานศิลปะ (แต่เพียงชิ้นเดียว)

ภาพวาด/ภาพถ่าย: เลือกภาพ Abstract ที่เน้นเส้นสายหรือสีสันที่เรียบง่าย, ภาพวาดเส้น (Line Art), ภาพถ่ายขาวดำ, หรือภาพวิวธรรมชาติที่องค์ประกอบไม่ซับซ้อน

กรอบ: ใช้ กรอบไม้สีอ่อน กรอบโลหะสีดำ/ขาว หรือกรอบที่เรียบง่ายที่สุด เพื่อไม่ให้แย่งซีนตัวภาพ

การจัดวาง: แขวนบนผนังโล่งๆ เพียง 1 ชิ้น หรือวางบนชั้นวาง โดยเว้นพื้นที่รอบๆ ให้ดูโปร่ง


5. ผ้าตกแต่งช่วยเพิ่มสัมผัส

หมอนอิง/ผ้าคลุม: เลือกสีพื้น หรือลายตาราง/ลายทางเล็กๆ ในโทนสีเดียวกับห้อง วัสดุควรเป็น ผ้าฝ้าย ลินิน หรือผ้าถักที่ให้สัมผัสที่นุ่มสบาย

การจัดวาง: วางบนโซฟาหรือเตียงเพื่อเพิ่มความอบอุ่นและเท็กซ์เจอร์

การแต่งบ้านสไตล์มินิมอลไม่ได้หมายความว่าต้องไม่มีของตกแต่งเลย แต่เป็นการ เลือกสรรของที่มีคุณค่า มีความหมาย และใช้งานได้จริง มาจัดวางอย่างเรียบง่าย เพื่อสร้างพื้นที่ที่สงบ เป็นระเบียบ และสวยงามเหนือกาลเวลาค่ะ

คุณมีของตกแต่งบ้านชิ้นไหนที่สนใจเป็นพิเศษไหมคะ? จะได้ช่วยแนะนำเพิ่มเติมได้ตรงจุดมากขึ้นค่ะ

7
doctor at home: เยื่อตาขาวอักเสบจากไวรัส (Viral conjunctivitis)

เยื่อตาขาวอักเสบจากไวรัส พบได้บ่อยในคนทุกวัย พบในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ พบได้ประปรายตลอดปี

เนื่องจากโรคนี้สามารถติดต่อได้ง่ายและระบาดได้รวดเร็ว จึงนิยมเรียกว่า โรคตาแดงระบาด ซึ่งมักพบระบาดในช่วงเดือนมิถุนายนถึงธันวาคม โดยอาจพบระบาดภายในบ้าน ตามหมู่บ้าน โรงเรียน โรงงาน ที่ทำงาน ค่ายทหาร เป็นต้น

สาเหตุ

เกิดจากการติดเชื้อไวรัสหลายชนิด ที่พบบ่อยที่สุด คือ กลุ่มไวรัสอะดิโน (adenovirus) ซึ่งมีอยู่หลายชนิดย่อย ๆ

ไวรัสอะดิโนบางชนิด (เช่น ชนิด 3 และ 7) ทำให้มีไข้และการอักเสบของเยื่อตาขาวร่วมกับคอหอย เรียกว่า ไข้เยื่อตาขาวและคอหอยอักเสบ (pharyngoconjunctival fever) ติดต่อโดยการสัมผัสโดยตรง หรือสัมผัสถูกมือหรือสิ่งของเครื่องใช้ (เช่น แก้วน้ำ จาน ชาม ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า สบู่ ขันน้ำ ลูกบิดประตู โทรศัพท์ เป็นต้น) ที่แปดเปื้อนเชื้อ และยังอาจติดต่อแบบเดียวกับคอหอยอักเสบ (ไอ จาม หรือสัมผัสถูกสิ่งคัดหลั่งในช่องปากของผู้ป่วย) มีระยะฟักตัว 5-12 วัน

ไวรัสอะดิโนบางชนิด (เช่น ชนิด 8, 19 และ 37) ทำให้มีการอักเสบของเยื่อตาขาวร่วมกับกระจกตา และมีลักษณะระบาดได้รวดเร็ว เรียกว่า เยื่อตาขาวและกระจกตาอักเสบชนิดระบาด (epidemic keratoconjunctivitis/EKC) ติดต่อโดยการสัมผัสโดยตรง หรือสัมผัสถูกสิ่งของเครื่องใช้ และอาจติดต่อจากการเล่นน้ำในสระว่ายน้ำที่มีเชื้อปนเปื้อน (จากผู้ป่วยที่ลงเล่นน้ำ) มีระยะฟักตัว 5-12 วัน

นอกจากนี้ยังมีไวรัสอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นสาเหตุสำคัญของโรคนี้ คือ กลุ่มไวรัสพิคอร์นา (picornavirus) ซึ่งมีอยู่หลายชนิด ที่สำคัญได้แก่ ไวรัสเอนเทอโรชนิด 70 (enterovirus type 70) และไวรัสค็อกแซกกีเอชนิด 24 (coxsackie virus A type 24) ทำให้เยื่อตาขาวอักเสบร่วมกับเลือดออกใต้เยื่อตาขาว เรียกว่า "Acute hemorrhagic conjunctivitis" ซึ่งพบระบาดได้เช่นกัน ติดต่อโดยการสัมผัสโดยตรงหรือสัมผัสถูกสิ่งของเครื่องใช้ มีระยะฟักตัว 1-2 วัน

อาการ

มีอาการตาแดง เคืองตาคล้ายผงเข้าตา กลัวแสง น้ำตาไหล มีขี้ตาเล็กน้อย อาจมีอาการหนังตาบวม ลืมตาไม่ค่อยขึ้น

ในรายที่เป็นคอหอยอักเสบร่วมด้วย (ซึ่งพบใน "ไข้เยื่อตาขาวและคอหอยอักเสบ") จะมีไข้ เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามตัวร่วมด้วย

ในรายที่มีการอักเสบของกระจกตาร่วมด้วย หากเป็นรุนแรงมักมีอาการปวดตาและสายตาพร่ามัว

อาการตาแดงตาอักเสบมักจะเริ่มเป็นที่ตาข้างหนึ่งก่อน แล้วจึงลามมาอีกข้างหนึ่งภายใน 2-3 วัน

ส่วนมากอาการมักจะค่อย ๆ ทุเลาลง และหายขาดภายใน 1-3 สัปดาห์


ภาวะแทรกซ้อน

ส่วนใหญ่มักหายได้เองโดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบได้ เช่น มีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนหรือสายตาพร่ามัว (มองเห็นไม่ชัด) เนื่องจากกระจกตาอักเสบ ซึ่งอาจเป็นนานเป็นสัปดาห์ ๆ ถึงเป็นแรมปี

บางรายอาจมีรอยแผลเป็นที่เยื่อตาขาว หรือการติดกันของเยื่อตาขาวกับลูกตา (symblepharon)

ในรายที่เกิดจากเชื้อไวรัสเอนเทอโรชนิด 70 อาจทำให้เกิดไขสันหลังอักเสบเฉียบพลันแทรกซ้อน มีอาการแขนขาอ่อนแรงได้ ซึ่งพบได้น้อยมาก มักพบในคนอายุมากกว่า 20 ปี หลังตาอักเสบ 5 วันถึง 6 สัปดาห์


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกายเป็นหลัก

สิ่งตรวจพบที่สำคัญ ได้แก่ อาการตาแดง หนังตาบวม ต่อมน้ำเหลืองที่หน้าหูโต ซึ่งจะเริ่มเป็นข้างหนึ่งก่อน แล้วลามไปอีกข้าง

บางรายอาจตรวจพบไข้ (38-40 องศาเซลเซียส) คอหอยแดงเล็กน้อย

บางรายอาจพบมีเลือดออกเป็นจุดเล็ก ๆ จุดใหญ่ ๆ หรือเป็นปื้นแดงที่ใต้เยื่อตาขาว

ในรายที่วินิจฉัยไม่ได้แน่ชัด แพทย์อาจนำของเหลวที่ตา (น้ำตา ขี้ตา) ไปตรวจหาเชื้อ


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การรักษาตามอาการ เช่น ให้พาราเซตามอลแก้ปวดลดไข้ ประคบตาด้วยความเย็น ซึ่งช่วยบรรเทาอาการปวดตา เป็นต้น

ถ้ามีอาการเคืองตามาก ใช้น้ำตาเทียมหยอดตาวันละ 3-4 ครั้งเพื่อบรรเทาอาการ

ในรายที่พบว่ามีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน (ซึ่งพบได้น้อย) แพทย์จะใช้ยาป้ายตาหรือหยอดตาที่เข้ายาปฏิชีวนะ ทุก 2-4 ชั่วโมง

มีน้อยรายที่อาจมีอาการรุนแรงหรือเรื้อรัง ซึ่งจักษุแพทย์อาจพิจารณาให้ยาหยอดตาสเตียรอยด์หรือยาต้านไวรัส อาทิ

    ในรายที่มีการอักเสบของเยื่อตาขาวอย่างรุนแรง หรือมีการอักเสบของกระจกตาจนทำให้สายตามัวลงอย่างมาก จักษุแพทย์อาจพิจารณาให้ยาหยอดตาสเตียรอยด์เพื่อลดการอักเสบ ซึ่งต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง เพราะอาจมีผลข้างเคียงได้ เช่น อาจทำให้โรคเริมที่แฝงอยู่กำเริบได้
    ในรายที่ตรวจพบว่าเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเริม จักษุแพทย์จะให้ยาหยอดตาที่มีตัวยาต้านไวรัส (เช่น อะไซโคลเวียร์)

ผลการรักษา ส่วนใหญ่มักจะหายได้เอง ผู้ป่วยจะมีอาการมากอยู่นานไม่เกิน 1 สัปดาห์ และจะค่อย ๆ ทุเลาและหายขาดได้ภายใน 1-3 สัปดาห์โดยการรักษาตามอาการ ไม่จำเป็นต้องให้ยาปฏิชีวนะและยาต้านไวรัส มีน้อยรายที่อาจมีอาการรุนแรงหรือเรื้อรัง หรือมีภาวะแทรกซ้อน


การดูแลตนเอง

เมื่อมั่นใจหรือได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเยื่อตาขาวอักเสบจากไวรัส ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    ให้การรักษาตามอาการ เช่น

- ถ้ามีอาการปวดตาหรือมีไข้ กินพาราเซตามอล*

- ถ้ารู้สึกเคืองตามาก ใช้น้ำตาเทียมหยอดตา วันละ 3-4 ครั้ง

    นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ห้ามตรากตรำงานหนัก หรือออกกำลังหักโหมเกินไป
    งดใช้คอนแท็กต์เลนส์จนกว่าจะหายดี
    ระวังอย่าเผลอใช้มือขยี้ตา อาจทำให้ติดเชื้อไวรัสที่มือแล้วแพร่ให้คนอื่น และอาจทำให้มีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนเนื่องจากมือที่ไม่สะอาด
    หลีกเลี่ยงการซื้อยาหยอดตามาใช้เอง เพราะอาจมีตัวยาที่ไม่ปลอดภัยหรือทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้
    เพื่อป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อให้ผู้อื่น ผู้ป่วยควรแยกตัวไม่นอนหรืออยู่ใกล้คนอื่น, ไม่ใช้ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว สบู่ และสิ่งของเครื่องใช้อื่น ๆ ร่วมกับผู้อื่น, ควรล้างมือด้วยน้ำกับสบู่หรือชโลมมือด้วยเจลแอลกอฮอล์บ่อย ๆ (เพื่อกำจัดเชื้อที่อาจติดที่มือ), ใช้กระดาษทิชชูซับน้ำตาหรือขี้ตา แล้วทิ้งในถังขยะที่มิดชิด และควรหยุดเรียนหรือหยุดงาน พักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ไม่เข้าไปในที่ที่มีคนแออัด และไม่ลงเล่นน้ำในสระว่ายน้ำอย่างน้อย 1 สัปดาห์ หรือจนกว่าอาการหายดีแล้ว


ควรไปพบแพทย์/กลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้

    มีความวิตกกังวล หรือไม่มั่นใจที่จะดูแลรักษาด้วยตนเองแต่แรก
    มีอาการปวดตารุนแรง ขี้ตาแฉะ มีขี้ตาสีเหลืองหรือเขียว หรือมีอาการตาพร่ามัว
    มีอาการแขนขาอ่อนแรง
    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลาใน 1 สัปดาห์   
    มีอาการที่สงสัยว่าเป็นผลข้างเคียงจากยาหรือแพ้ยา เช่น ลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม หายใจมีเสียงดังวี้ด ๆ หายใจลำบาก เวียนศีรษะ หน้ามืดเป็นลม ปวดท้อง ท้องผูก ท้องเดิน ถ่ายอุจจาระดำ คลื่นไส้ อาเจียน ดีซ่าน (ตาเหลือง) จุดแดงจ้ำเขียว เป็นต้น

*เพื่อความปลอดภัย ควรขอคำแนะนำวิธีและขนาดยาที่ใช้ ผลข้างเคียงของยา และข้อควรระวังในการใช้ยาจากแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาเสมอ โดยเฉพาะการใช้ยาในเด็ก สตรีที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว หรือมีการใช้ยาบางชนิดที่แพทย์สั่งใช้อยู่เป็นประจำ

การป้องกัน

    หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่เป็นโรคตาแดง ตาอักเสบ
    หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของเครื่องใช้ (เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว คอนแทคเลนส์ แว่นตา หมอน แก้วน้ำ จาน ชาม สบู่ ขันน้ำ โทรศัพท์ เป็นต้น) ร่วมกับผู้ที่เป็นโรคตาแดง ตาอักเสบ
    หมั่นล้างมือด้วยน้ำกับสบู่หรือชโลมมือด้วยเจลแอลกอฮอล์บ่อย ๆ
    ระวังอย่าเผลอใช้มือขยี้ตา
    ในช่วงที่มีการระบาดของโรคนี้ ควรหลีกเลี่ยงการเล่นน้ำในสระว่ายน้ำ และการเข้าไปในที่ที่มีคนแออัด

ข้อแนะนำ

1. โรคนี้ส่วนใหญ่เป็นเพียงเล็กน้อย และหายได้เองภายใน 1-3 สัปดาห์ ส่วนในรายที่มีกระจกตาอักเสบร่วมด้วยก็มักจะไม่รุนแรงและไม่มีภาวะแทรกซ้อน (เช่น แผลกระจกตา) แต่อาจเป็นกระจกตาอักเสบแบบเรื้อรัง อย่างไรก็ตาม ถ้าแพทย์ให้การรักษาแล้วอาการไม่หายดีใน 3 สัปดาห์ หรือมีอาการปวดตารุนแรง หรือตาพร่ามัวมากขึ้น ก็ควรปรึกษาจักษุแพทย์

2. เยื่อตาขาวอักเสบจากไวรัสบางชนิด อาจเกิดไขสันหลังอักเสบเฉียบพลันแทรกซ้อน ทำให้มีอาการแขนขาอ่อนแรง แม้ว่าพบได้ไม่บ่อยนัก แต่ผู้ป่วยที่เป็นโรคตาแดงระบาด (จากไวรัส) ควรสังเกตอาการแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นนี้อย่างใกล้ชิด หากสงสัยควรไปพบแพทย์โดยเร็ว

8
ข้าวปลาแกะ ทำขายสร้างรายได้ อาหารท้องถิ่นสุดโปรดที่เรียบง่ายทำสดใหม่และรสชาติอร่อยเข้มข้น

วงการอาหารริมทางของไทยเต็มไปด้วยอาหารรสเลิศที่ผสมผสานความเรียบง่าย ความคิดสร้างสรรค์และรสชาติจัดจ้าน หนึ่งในนั้นคือ ข้าวปลาแกะซึ่งเป็นอาหารจานโปรดที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนัก แต่กลับเป็นเมนูที่อิ่มอร่อยอย่างแท้จริง สะท้อนถึงหัวใจสำคัญของอาหารไทยในชีวิตประจำวัน ข้าวปลาแกะสะท้อนความงามของการทำอาหารแบบบ้านๆของไทย อาหารง่ายๆที่ทำสดใหม่และรสชาติเข้มข้น

ข้าวปลาแกะ เป็นเมนูสตรีทฟู้ดที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศไทย เมนูนี้เป็นอาหารจานเดียวที่ดูเรียบง่ายแต่อร่อยและกินง่ายมาก ๆ เพราะเค้าจะใช้ ปลาทอด (ส่วนใหญ่นิยมใช้ ปลานิล หรือ ปลาทับทิม ทอดจนกรอบ) แล้วนำมาแกะเอาแต่เนื้อ (เอาพวกก้างออกให้หมด) วางโปะบน ข้าวสวยร้อน ๆ

ข้าวปลาแกะเป็นอาหารไทยยอดนิยมที่มักขายตามแผงลอยเล็กๆ และร้านอาหารท้องถิ่น โดยทั่วไปทำจากข้าวหอมมะลิหุงสุก เสิร์ฟพร้อมปลาทอดฝอยผสมกับสมุนไพร พริก กระเทียม มะนาว และบางครั้งก็ใส่ถั่วลิสงคั่วหรือหอมแดง ข้าวปลาแกะมักหมายถึงปลาที่ทอดจนเป็นชิ้นเล็กๆ กรอบ อร่อยเข้ากันได้ดีกับข้าวสวยร้อนๆ แม้ว่าข้าวปลาแกะอาจดูเรียบง่าย แต่เป็นอาหารที่แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ของพ่อครัวข้างทางชาวไทยที่สามารถเปลี่ยนวัตถุดิบในชีวิตประจำวันให้กลายเป็นอาหารที่อร่อยอย่างแท้จริง

ส่วนผสมและรสชาติ
ส่วนผสมมีอย่างตรงไปตรงมา แต่รสชาติก็เข้มข้นและสมดุล:
ข้าวหอมมะลินึ่ง – นุ่มและหอม เป็นฐานของอาหารจานนี้
ปลาแขกทอดมักทำจากปลาทู ปลานิล หรือปลาท้องถิ่นชนิดอื่นๆ ทอดจนเหลืองกรอบแล้วฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ
พริกและกระเทียม – บดรวมกันเพื่อเพิ่มรสชาติที่เข้มข้นและเผ็ดร้อน
น้ำมะนาว – เพิ่มความสดใสและเปรี้ยว
หอมแดงและสมุนไพร – ช่วยให้สดชื่นและกรุบกรอบเล็กน้อย
หอมแดงทอดหรือกระเทียมทอด (ไม่จำเป็น) – เพิ่มกลิ่นและเนื้อสัมผัส
ผลลัพธ์ที่ได้คือรสชาติที่สมดุลลงตัวระหว่างรสเค็ม รสเผ็ด รสเปรี้ยว และรสเผ็ดจัดซึ่งเป็นรสชาติไทยคลาสสิกที่ทำให้ผู้คนกลับมาสั่งซ้ำอีก

วิธีการทำ
พ่อค้าแม่ค้าริมถนนมักจะเตรียมปลาก่อน ทอดจนกรอบและมีกลิ่นหอม เมื่อปลาเย็นลงแล้ว พวกเขาจะฉีกปลาเป็นชิ้นเล็กๆ เบาๆ แล้วคลุกเคล้ากับพริก กระเทียม น้ำมะนาว และเครื่องปรุงรส เสิร์ฟพร้อมข้าวสวย บางครั้งก็เสิร์ฟพร้อมผักสดหรือแตงกวาฝานบางๆ เพื่อปรับรสชาติให้สมดุล
พ่อค้าแม่ค้าหลายๆ คนจะปรุงรสตามใจชอบ บางคนใช้ปลาเผาแทนปลาทอด บางคนก็ผสมน้ำปลา น้ำตาล และผงข้าวคั่วเพื่อเพิ่มความเข้มข้น

ทำไมผู้คนถึงชอบมัน
ข้าวปลาแขกเป็นที่ชื่นชอบของคนในท้องถิ่นเพราะว่า:
รวดเร็วและราคาไม่แพงเหมาะสำหรับมื้อกลางวันริมถนนหรือมื้อเย็นแบบซื้อกลับบ้าน
มีคุณค่าทางโภชนาการและอิ่มท้อง – อุดมไปด้วยโปรตีนจากปลาและคาร์โบไฮเดรตจากข้าว
ปรับแต่งได้ – คุณสามารถปรับระดับความเผ็ดหรือเพิ่มสมุนไพรเพิ่มเติมได้
รสชาติความเรียบง่ายแบบไทย – รวบรวมบรรยากาศอาหารทำเองที่บ้านที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของวัฒนธรรมการทำอาหารของไทย

หาซื้อได้ที่ไหน
คุณสามารถหาซื้อข้าวปลาแขกได้ตามตลาดท้องถิ่นแผงขายอาหารริมทางและร้านอาหารเล็กๆ ริมทางโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตัวเมืองต่างจังหวัดและพื้นที่ชายฝั่งที่มีปลาสดอุดมสมบูรณ์ พ่อค้าแม่ค้ามักห่อด้วยใบตองเพื่อนำกลับบ้านได้ง่าย ซึ่งเป็นประเพณีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและเสริมเสน่ห์แบบชนบทของอาหารจานนี้

ข้อแนะนำในการเพลิดเพลินกับเขาปลาเก๋า
ลองบีบมะนาวเพิ่มถ้าคุณชอบรสเปรี้ยว
จับคู่กับชาไทยเย็นหรือเครื่องดื่มตะไคร้เพื่อปรับสมดุลความร้อน
เพลิดเพลินกับความสดของเนื้อปลาที่กรอบอร่อยที่สุดทันทีหลังจากปรุงเสร็จ

อัญมณีที่ซ่อนเร้นของอาหารไทยริมทาง
แม้ว่าเมนูอย่างผัดไทยและส้มตำมักจะถูกมองข้าม แต่ข้าวปลาแขกก็ยังคงเป็นอัญมณีที่ซ่อนเร้นและถ่ายทอดจิตวิญญาณของอาหารริมทางไทยได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งเรียบง่าย รสชาติเข้มข้น และปรุงด้วยความรัก สำหรับนักเดินทางที่มองหาประสบการณ์การรับประทานอาหารท้องถิ่นอย่างแท้จริง อาหารจานนี้ถือเป็นเมนูที่ต้องลอง

คราวหน้าถ้าได้ไปเดินตลาดไทยที่คึกคัก ลองมองหาพ่อค้าแม่ค้าขายข้าวราดปลาเส้นกรอบดูสิ ลองชิมดูสิ แล้วคุณจะรู้ว่าทำไมข้าวปลาแขกถึงควรค่าแก่การเป็นหนึ่งในร้านอาหารริมทางสุดคลาสสิกที่คนไทยชื่นชอบ


9
จัดฟันบางนา: รู้หรือไม่ ? ทำไมการจัดฟันแบบใส invisalign ถึงดีกว่าการจัดแบบอื่น !

การจัดฟันแบบใส invisalign เป็นการจัดฟันที่นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการรักษา ผู้เข้ารับการรักษาสามารถเห็นการวางแผนของการรักษาและการเคลื่อนตัวของฟัน ได้ 100 % ถึงทำให้ผลการรักษาออกมาประสบความสำเร็จและมีความแม่นยำเป็นอย่างมาก ไม่ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน และแก้ไขปัญหาของสภาพฟันได้ทุกกรณี ทำให้คุณกลับมามีรอยยิ้มที่สดใสและมรสุขภาพฟันที่ดีขึ้นอีกด้วย

หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมการจัดฟันแบบใส invisalign ถึงดีกว่าการจัดฟันในรูปแบบอื่น ซึ่งการจัดแบบทั่วไปที่เราเห็นคือ มีการใส่เหล็กจัดฟันเข้าไปในช่องปาก แต่การจัดฟันแบบใส invisalign ทำให้มองแทบไม่เห้นเครื่องการจัดฟัน ทั้งยังสามารถถอดออกได้ด้วย นี่ก็เป็นจุดเด่นว่าทำการจัดฟันแบบใส ถึงดีกว่าการจัดฟันแบบอื่น นอกจากเครื่องมือที่แตกต่างกันแล้ว การจัดฟันแบบใสยังให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า เป็นที่พึงพอใจของผู้เข้ารับการรักษา เพราะสามารถคาดการณ์ผลการรักษาได้อย่างแม่นยำ

อย่างไรก็ตามการจัดฟันแบบใส ยังเหมาะสมกับไลพ์สไตล์ของคนในสมัยนี้อีกด้วย เพราะประหยัดเวลาในการเข้าพบทันตแพทย์ สามารถยิ้มได้อย่างมั่นใจดดยแทบจะไม่เห้นเครื่องมือ รวมไปถึงการรับประทานอาหารที่สามารถรับประทานอาหารได้อย่างหลากหลาย โดยไม่ต้องมีเรื่องกังวลว่าเหล็กจะหลุดขณะรับประทานอาหาร และยังมีความเจ็บปวดที่น้อยกว่าการจัดฟันแบบอื่น

นอกจากนี้ การดุแลรักษาความสะอาดของช่องปาก ก็สามารถทำได้ง่ายเพราะสามารถถอดเครื่องมือออกได้ขณะที่แปรงฟัน และยังใช้ไหมขัดฟันได้ตามปกติ เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดี และเครื่องมือการจัดฟันแบบใส หรือ เทรย์นั้น สามารถถอดออกได้ และมีวิธีการดูแลรักษาที่ง่ายไม่ยุ่งยาก หากมีข้อสงสัยสามารถเข้ารับคำแนะนำจากทางคลีนิค ได้ ทางเรายินดีให้คำปรึกษาฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

10
เว็บลงโฆษณาฟรี / Doctor At Home: แผลพุพอง (Impetigo/Ecthyma)
« เมื่อ: วันที่ 13 ตุลาคม 2025, 15:38:15 น. »
Doctor At Home: แผลพุพอง (Impetigo/Ecthyma)

แผลพุพอง เป็นการอักเสบของผิวหนังแบบหนึ่งซึ่งเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย มักพบในทารกและเด็กวัยเรียนที่มีสุขอนามัยที่ไม่ดี ไม่ค่อยดูแลความสะอาดของตัวเอง หรือมีบาดแผลเล็กน้อยก็ปล่อยปละละเลย โรคนี้ติดต่อกันง่ายภายในบ้าน สถานเลี้ยงเด็ก และโรงเรียน


สาเหตุ

เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียสแตฟีโลค็อกคัสออเรียส หรือสเตรปโตค็อกคัสกลุ่มเอ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่

1. แผลพุพองชนิดตื้น (impetigo) เป็นการติดเชื้อของหนังกำพร้าชั้นนอกสุด (stratum corneum) เป็นโรคที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กที่ขาดการรักษาความสะอาด และไม่ใส่ใจดูแลบาดแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นโรคที่ติดต่อได้ง่ายและรวดเร็ว ติดต่อโดยการสัมผัสถูกผู้ที่เป็นโรคนี้อยู่ก่อน หรือสัมผัสถูกเชื้อที่ปนเปื้อนตามสิ่งของเครื่องใช้ที่ผู้ป่วยสัมผัส เชื้อจะเข้าสู่ผิวหนังทางรอยถลอก

2. แผลพุพองชนิดลึก (ecthyma) เป็นการติดเชื้อลึกถึงชั้นหนังแท้ มักพบในเด็กวัยเรียนหรือผู้ใหญ่ที่ไม่รู้จักรักษาความสะอาด ผิวหนังสกปรก ไว้เล็บยาว ไม่ใส่ใจดูแลบาดแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น รอยถลอกรอยขีดข่วน รอยแผลจากยุง แมลงกัด หรืออาจพบเป็นภาวะแทรกซ้อนของโรคผิวหนังอื่น ๆ เช่น หิด เหา อีสุกอีใส เริม งูสวัด ผื่นแพ้ ผื่นคัน เป็นต้น


อาการ

1. แผลพุพองชนิดตื้น แสดงอาการได้ 2 แบบ

แบบที่ 1 เกิดจากการติดเชื้อสเตรปโตค็อกคัสกลุ่มเอ แรกเริ่มเป็นผื่นแดงและคัน ต่อมาจะกลายเป็นตุ่มน้ำใสเล็ก ๆ มีฐานสีแดง ต่อมากลายเป็นตุ่มหนอง ซึ่งจะแตกง่าย กลายเป็นสีแดง และมีน้ำเหลืองเหนียว ๆ ติดเยิ้ม แล้วกลายเป็นสะเก็ดเหลืองกรังติดอยู่ มีลักษณะคล้ายรอยบุหรี่ เมื่อผื่นอันแรกแตก มักจะมีผื่นบริวารขึ้นตามในบริเวณข้างเคียงหลาย ๆ อัน และอาจลุกลามไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการเกา

บางรายอาจมีไข้ต่ำหรือต่อมน้ำเหลืองโตร่วมด้วย มักขึ้นตามใบหน้า ใบหู จมูก ปาก ศีรษะ ก้น และบริเวณนอกร่มผ้า (เช่น มือ ขา หัวเข่า) เมื่อหายแล้วจะไม่เป็นแผลเป็น

ถ้าเป็นพุพองที่ศีรษะ ชาวบ้านเรียกว่า ชันนะตุ

แบบที่ 2 เกิดจากการติดเชื้อสแตฟีโลค็อกคัสออเรียส ซึ่งพบได้น้อยกว่าแบบที่ 1 มีอาการพุขึ้นเป็นตุ่มน้ำพอง ฐานไม่แดง ระยะแรกน้ำภายในตุ่มพองมีลักษณะใส ต่อมาจะเริ่มขุ่น แล้วบางตุ่มจะแตก มีน้ำเหลืองแห้งกรังเป็นสีน้ำตาล ในทารกที่ยังมีภูมิคุ้มกันต่ำ มักมีไข้ และตุ่มน้ำพองมีขนาดใหญ่

2. แผลพุพองชนิดลึก (อาจเกิดจากสแตฟีโลค็อกคัสออเรียส หรือสเตรปโตค็อกคัสกลุ่มเอก็ได้) แรกเริ่มขึ้นเป็นตุ่มแดง ตุ่มน้ำ หรือตุ่มหนองเล็ก ๆ มีฐานสีแดง แล้วโตขึ้นช้า ๆ มีขนาด 1-3 ซม. ต่อมามีสะเก็ดหนาปกคลุม ลักษณะเป็นสะเก็ดแข็งสีคล้ำติดแน่น ข้างใต้เป็นน้ำหนอง ถ้าเป็นนาน ๆ ขอบแผลจะยกนูนออกเป็นสีคล้ำ เมื่อหายแล้วจะกลายเป็นแผลเป็น มักพบที่บริเวณขา


ภาวะแทรกซ้อน

ส่วนใหญ่มักดูแลรักษาให้หายขาด และไม่มีภาวะแทรกซ้อน และส่วนใหญ่ไม่เป็นแผลเป็น ยกเว้นในรายที่เป็นแผลพุพองชนิดลึกที่มักเป็นแผลเป็นเมื่อหายแล้ว

ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่แรกอาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น เชื้อลุกลามกลายเป็น เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังชั้นลึกอักเสบ (cellulitis) และเชื้ออาจลุกลามเข้ากระแสเลือด ทำให้เป็นโลหิตเป็นพิษได้ ถ้าพบในทารก อาจมีอันตรายร้ายแรงได้

ในรายที่เกิดจากเชื้อบีตาฮีโมไลติกสเตรปโตค็อกคัสกลุ่มเอ อาจทำให้เป็นหน่วยไตอักเสบเฉียบพลันได้ (มีอาการไข้สูง บวมทั้งตัว ปัสสาวะสีแดง)


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ ในบางรายแพทย์อาจนำหนองจากรอยโรคไปตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติการ


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. อาบน้ำฟอกด้วยสบู่วันละ 2 ครั้ง และใช้น้ำด่างทับทิมชะล้างเอาคราบสะเก็ดออกไป

สำหรับแผลพุพองที่มีสะเก็ดแข็ง ทำการประคบด้วยน้ำอุ่นจัด ๆ และชุ่ม ๆ เพื่อให้สะเก็ดนุ่มและหลุดออกเร็ว

2. ถ้าคันมากให้ยาแก้แพ้ เช่น คลอร์เฟนิรามีน

3. ทาแผลด้วยขี้ผึ้งเตตราไซคลีน หรือครีมเจนตาไมซิน หรือเจนเชียนไวโอเลต หลังอาบน้ำทุกครั้ง

4. ให้ยาปฏิชีวนะ เช่น เพนิซิลลินวี, อีริโทรไมซิน, ไดคล็อกซาซิลลิน, โคอะม็อกซิคลาฟ เป็นต้น เป็นเวลา 5-7 วัน สำหรับเชื้อสแตฟีโลค็อกคัส

สำหรับเชื้อสเตรปโตค็อกคัสจะให้กินยานาน 10 วัน เพื่อป้องกันโรคหน่วยไตอักเสบเฉียบพลันใน

สำหรับแผลพุพองชนิดลึก (ที่มีสะเก็ดแข็งสีคล้ำติดแน่น) จะให้กินยานาน 2-3 สัปดาห์

5. ถ้าไม่ดีขึ้นหรือพบในทารก แพทย์จะนำหนองจากรอยโรคไปทำการย้อมเชื้อหรือเพาะเชื้อ และให้ยาปฏิชีวนะตามชนิดของเชื้อที่ตรวจพบ


การดูแลตนเอง

หากสงสัยเป็นแผลพุพอง ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นแผลพุพอง ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    ลดการแพร่เชื้อให้ผู้อื่น โดยหยุดไปสถานเลี้ยงเด็กหรือโรงเรียน และพักอยู่ที่บ้านจนกว่าจะไม่แพร่เชื้อ (คือ หลังกินยาปฏิชีวนะได้ 24 ชั่วโมงไปแล้ว), ชะล้างแผลให้สะอาดและใช้ผ้าปิดแผล, หมั่นล้างมือด้วยน้ำกับสบู่, ตัดเล็บให้สั้น, ไม่ใช้เสื้อผ้า ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัวร่วมกับผู้อื่น


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลาใน 2-3 วัน
    มีไข้สูง หนาวสั่น ซึม เบื่ออาหาร เท้าบวม ปัสสาวะเป็นสีแดง หรือมีอาการชัก
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

    หมั่นรักษาความสะอาดของผิวหนัง
    หมั่นล้างมือด้วยน้ำกับสบู่
    ตัดเล็บให้สั้น
    หลีกเลี่ยงการสัมผัสถูกแผลพุพองที่ผู้ป่วยเป็น
    ไม่ใช้เสื้อผ้า ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัวร่วมกับผู้ป่วย
    หากมีบาดแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือโรคผิวหนัง (เช่น หิด เหา เริม งูสวัด อีสุกอีใส) ควรให้การดูแล อย่างจริงจัง

ข้อแนะนำ

แผลพุพองชนิดตื้นที่เกิดจากเชื้อสเตรปโตค็อกคัสกลุ่มเอ ควรกินยาปฏิชีวนะให้ครบระยะเวลาตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อป้องกันหน่วยไตอักเสบเฉียบพลัน

11
วิธีขับรถให้ปลอดภัย ช่วงเทศกาลที่มีรถเยอะ By รถรับจ้างขนย้ายบ้านขอนแก่น

ช่วงเทศกาลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นปีใหม่ สงกรานต์ หรือวันหยุดยาว เป็นช่วงเวลาที่หลายคนรอคอยเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะเป็นโอกาสทองในการเดินทางกลับภูมิลำเนา เยี่ยมญาติ หรือพักผ่อนกับครอบครัวและเพื่อนฝูง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เลี่ยงไม่ได้นั้นคือจำเป็นต้องขับรถเดินทาง และจะต้องไปเจอกับสถานการณ์ที่มีจำนวนรถที่เพิ่มขึ้นมหาศาลในช่วงเวลาดังกล่าว ก็ทำให้ถนนกลายเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายกว่าปกติหลายเท่าค่ะ

เพื่อให้การเดินทางของคุณและคนที่คุณรักปลอดภัย และเพื่อถึงจุดหมายอย่างราบรื่น ในบทความนี้ รถรับจ้างขอนแก่น จะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับ วิธีการขับรถอย่างปลอดภัยในช่วงเทศกาลที่มีรถเยอะ โดยที่ครอบคลุมตั้งแต่การเตรียมรถ เตรียมตัว ไปจนถึงการมีสติขณะขับขี่รถบนท้องถนนค่ะ

1. ตรวจสอบสภาพรถก่อนเดินทาง

สำหรับก่อนการเดินทาง รถรับจ้างขอนแก่น จะแนะนำวิธีการดูแลและตรวจเช็กรถก่อนออกเดินทาง เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องขับรถทางไกลหลายชั่วโมง หากรถมีปัญหาในระหว่างทาง แน่นอนว่าไม่เพียงแต่ทำให้เสียเวลา ยังอาจเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้อีกด้วยค่ะ สิ่งที่ควรตรวจสอบก่อนเดินทาง ได้แก่

    ระบบเบรก : ควรตรวจเช็กว่าเบรกตอบสนองดีหรือไม่ มีเสียงหรือแรงสะดุดผิดปกติหรือเปล่า
    ยางรถยนต์ : ตรวจสอบแรงดันลมยาง ความลึกของดอกยาง และไม่มีรอยฉีกขาดหรือไม่
    ไฟหน้า-ไฟท้าย และไฟเลี้ยว : ต้องใช้งานได้ครบถ้วน เพราะมีผลต่อการมองเห็นและการสื่อสารกับรถคันอื่น
    น้ำมันเครื่อง น้ำหล่อเย็น น้ำมันเบรก และน้ำในหม้อน้ำ : ตรวจระดับให้เพียงพอ และไม่มีรอยรั่ว
    อุปกรณ์ฉุกเฉิน : เช่น แม่แรง ยางอะไหล่ สายพ่วงแบตเตอรี่ หรือชุดปฐมพยาบาล

ทั้งหมดนี้ควรตรวจสภาพก่อนออกเดินทาง เพื่อความปลอดภัย ทั้งต่อตัวคุณ คนที่คุณรัก และเพื่อนร่วมทางที่สัญจรร่วมกันค่ะ


2. วางแผนเส้นทางล่วงหน้า

แน่นอนว่าเดินทางในช่วงเทศกาล มักจะต้องเผชิญกับปัญหาจราจรติดขัด โดยเฉพาะในเส้นทางหลักที่มุ่งสู่นอกเมืองหรือสถานที่ท่องเที่ยว รถรับจ้างขอนแก่น สิ่งที่จะช่วยให้การเดินทางง่ายขึ้นนั่นคือจำเป็นต้องมีการวางแผนล่วงหน้า ช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีปัญหาและถึงที่หมายได้รวดเร็วขึ้น สิ่งที่ใช้ในการตรวจสอบเส้นทางเพื่อความสะดวกมากยิ่งขึ้น นั่นคือการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวก ใช้แอปพลิเคชันแผนที่ (เช่น Google Maps หรือ Waze) เพื่อเช็กสภาพการจราจรแบบเรียลไทม์ แน่นอนว่าต้องเตรียมเส้นทางสำรองเผื่อกรณีที่เส้นทางหลักมีอุบัติเหตุหรือรถติดหนัก ควรศึกษาจุดพักรถ จุดเติมน้ำมัน หรือปั๊มที่ใกล้ที่สุด และหลีกเลี่ยงการขับรถตอนกลางคืน ถ้าไม่จำเป็น เพราะทัศนวิสัยแย่ลงและร่างกายเหนื่อยล้าง่ายค่ะ


3. ง่วงไม่ขับ เมาไม่ขับ

สถิติจากหลายปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า สาเหตุอันดับต้น ๆ ของอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลคือ “คนขับง่วง” และ “คนขับเมา” ทั้งสองอย่างนี้ลดทอนสมาธิและความสามารถในการควบคุมรถอย่างรุนแรงค่ะ แน่นอนว่าควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ก่อนวันเดินทางค่ะ หากขับรถนานเกิน 2-3 ชั่วโมง ควรหยุดพักทุก 100-150 กิโลเมตร เพื่อยืดเส้นยืดสายหรือเปลี่ยนคนขับ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยเด็ดขาด แม้จะดื่มแค่นิดเดียวก็อาจมีผลต่อประสิทธิภาพในการขับขี่ หากรู้สึกง่วงขณะขับ ให้หาที่จอดปลอดภัยแล้วงีบพักสัก 15-20 นาที


4. ขับรถด้วยความเร็วที่เหมาะสม

ในช่วงเทศกาล มีความเป็นไปได้สูงที่จะเจอรถติด และแน่นอนว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าต้องมีการเบรกกะทันหันจากรถคันหน้า การขับรถเร็วเกินไปอาจทำให้คุณไม่มีเวลาตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน รถรับจ้างขอนแก่น ข้อแนะนำว่า ควรขับรถตามความเร็วที่กฎหมายกำหนด และปรับตามสภาพถนน เช่น ฝนตก ถนนลื่น หรือถนนภูเขา หลีกเลี่ยงการเร่งแซงในทางโค้งหรือจุดอับสายตาค่ะ ทั้งหมดนี้จะช่วยให้คุณขับรถปลอดภัยมากขึ้นค่ะ


5. เว้นระยะห่างจากรถคันหน้า

ในช่วงที่รถเยอะ การเว้นระยะห่างอย่างเหมาะสมคือเกราะป้องกันที่ดีในการหลีกเลี่ยงจากอุบัติเหตุ ควรเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าอย่างน้อย 2-3 วินาที หรือมากกว่านั้นเมื่อถนนลื่น อย่าขับจี้ท้าย แม้รถจะเคลื่อนช้า เพราะหากรถหน้าเบรกกะทันหัน คุณอาจเบรกไม่ทันค่ะ


6. มีสติและไม่ประมาท

ควรขับขี่อย่างมีสติ และมีน้ำใจ นั่นคือหัวใจของการเดินทางที่ปลอดภัยที่สุด รถรับจ้างขอนแก่น หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่ ไม่ควรหงุดหงิดหรือใช้อารมณ์กับการจราจรติดขัดหรือพฤติกรรมของรถคันอื่น มีน้ำใจให้กัน เช่น ให้ทางเมื่อจำเป็น ใช้ไฟเลี้ยวทุกครั้ง และไม่แย่งเลน และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ทำเช่นนี้ทำให้การเดินทางเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้นค่ะ

การเดินทางช่วงเทศกาลคือช่วงเวลาแห่งความสุขที่เราทุกคนรอคอย แต่ความสุขจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากการเดินทางนั้นไม่ปลอดภัย ขอให้คุณเริ่มต้นด้วยการเตรียมตัวให้พร้อมและขับขี่อย่างมีสติเพื่อให้ทุกเส้นทางพาคุณไปถึงจุดหมายโดยสวัสดิภาพ เพราะปลายทางที่ดีที่สุด…คือการได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย

รถรับจ้างขอนแก่น ขอเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้การเดินทางปลอดภัยตลอดเส้นทางค่ะ เรามีความหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่คุณที่ได้อ่านไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอนค่ะ หากต้องการใช้บริการรถรับจ้าง รถรับจ้างขอนแก่น พร้อมบริการคุณทุกการขนย้าย ไม่ว่าจะย้ายวันปกติ ช่วยเทศกาล วันหยุดยาว เราพร้อมบริการคุณค่ะ

12
จัดฟันบางนา: การจัดฟันแบบใส ทำอะไรได้บ้าง

การจัดฟันแบบใส ถือว่าเป็นการรักษาทางทันตกรรมอย่างหนึ่งที่มีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการรักษาตั้งแต่ขั้นตอนการวางแลผไปจนถึงการรักษาเสร็จสิ้น ซึ่งการจัดฟันแบบใสมีข้อดีและข้อแตกต่างก็คือ เป็นการจัดฟันที่แทบจะไม่สามารถมองเห็นเครื่องมือการจัดฟันและทำให้คนอื่นมองแทบไม่ออกว่า กำลังเข้ารับการจัดฟันอยู่ แถมยังถูกสุขอนามัยด้านทันตกรรม ซึ่งใช้นวัตกรรมเพื่อจัดฟันอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย นอกจากนี้ เครื่องมือการจัดฟันแบบใส ยังเป็นเครื่องมือจัดฟันที่ทำมาจากพลาสติกที่ผิวสัมผัสเรียบ พิเศษกว่าการจัดฟันแบบใส่เหล็กจัดฟัน


นั่นก็คือ เครื่องมือการจัดฟันมีความใสจนแทบมองไม่เห็น สบายกว่าไม่ระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อในปาก สามารถถอดออกง่าย สวมใส่สบาย และสามารถถอดออกได้เวลารับประทานอาหารหรือแปรงฟัน ทั้งนี้ เป็นเครื่องมือที่ถูกออกแบบมาเฉพาะบุคคล โดยการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ช่วยในการผลิตชุดของเครื่องมือจัดฟัน โดยแต่ละชุดจะค่อยๆจัดเรียงฟันของผู้เขารับการจัดฟันให้เคลื่อนไปยังตำแหน่งที่ทันตแพทย์จัดฟันได้กำหนดไว้ในแผนการรักษาอย่างเป็นธรรมชาติ สำหรับใครทีสนใจอยากจะเข้ารับการจัดฟันแบบใส แต่ยังไม่ทราบว่า การจัดฟันแบบใสนั้น มีข้อดีอย่างไร และสามารถช่วยแก้ไขปัญหาฟันในเรื่องใดได้บ้าง

วันนี้เราจะมาพูดถึงการจัดฟันแบบใส ที่เป็นนวัตกรรมรูปแบบใหม่ที่นำมาช่วยในการแก้ไขปัญหาฟัน สามารถทำอะไรได้บ้าง ในการเข้ารับการจัดฟันแบบใส สามารถช่วยแก้ไขปัญหาฟันได้อย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็นฟันบนยื่น ฟันล่างยื่น ฟันสบไขว้ หรือแม้กระทั่งฟันห่าง ซึ่งปัญหาเหล่านี้ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ที่มีปัญหา ทำให้ไม่สามารถบดเคี้ยวอาหารได้ตามปกติ ทำให้ทำความสะอาดช่องปากและฟันได้ไม่ดีเท่าที่ควร 

ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น จะทำให้ผู้ที่มีปัญหาฟัน ยิ่งเกิดปัญหารุนแรงเข้าไปอีก ทั้งปัญหาทางด้านช่องปากและฟัน เนื่องจากทำความสะอาดฟันได้ไม่สะอาด หรือสุขภาพร่างกายที่ไม่สามารถบดเตี้ยวอาหารได้ละเอียด ดังนั้น การเข้ารับการจัดฟันแบบใส จึงเป้นอีกหนึ่งทางออกที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความแม่นยำมาก เพราะนอกจากจะช่วยแก้ไขปัญหาฟันได้แล้ว  เครื่องมือการจัดฟันแบบใส ยังช่วยทำให้ผู้เข้ารับการรักษาสามารถเห็นผลการรักษาล่วงหน้าได้ และยังสามารถวางแผนการรักษาร่วมกับทันตแพทย์ได้ด้วย ซึ่งในข้อนี้จึงทำให้ผู้เข้ารับการรักษาสามารถออกแบบรอยยิ้มให้ตัวเองได้ ถือว่าตอบโจทย์มากเลยทีเดียว


นอกจากนี้ ระยะเวลาในการรักษาของด้วยการจัดฟันแบบใส ยังช่วยให้ผู้เขารับการรักษาเห็นภาพทุกขั้นตอนของการรักษา ทำให้ได้เห็นภาพของระยะเวลาในการรักษาที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ส่วนการจัดฟันแบบสวมใส่เหล็กจัดฟัน อาจจะทำให้ทราบระยะเวลาในการรักษาโดยประมาณในตอนช่วงเริ่มต้นของการรักษาเท่านั้น อย่างไรก็ตาม การเข้ารับการจัดฟันแบบใส ถึงแม้ว่าจะมีผลการรักษาที่แม่นยำ แต่ผู้เข้ารับการรักษาก็ควรมีระเบียบวินัยในการสวมใส่เครื่องมือด้วย เพื่อให้ผลการรักษาเป็นไปตามที่ทันตแพทย์วางไว้

หากใครสนใจเข้ารับการจัดฟันแบบใส สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิก เพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการรักษาทางทันตกรรม และมีประสบการณ์ในด้านการจัดฟันมาอย่างยาวนาน จึงสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ ทางคลินิกของเรา ยังได้รับการรับรองสูงสุดจากทาง  Invisalign ให้สามารถให้บริการด้านการจัดฟันแบบใสได้อย่างถูกต้อง และมีมาตรฐานตามหลักสากล จึงมั่นใจได้ว่า เมื่อคุณเข้ารับการรักษาที่ทางคลินิกแน่นอนว่า คุณจะมีฟันที่สวยงามเป็นธรรมชาติ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน

13
รถกระบะรับจ้างจังหวัดตรังราคาถูก พร้อมคนยก!! ด้วยรถกระบะรับจ้าง 6ล้อรับจ้าง 10ล้อรับจ้าง

"เมืองพระยารัษฎา ชาวประชาใจกว้าง หมูย่างรสเลิศ ถิ่นกำเนิดยางพารา เด่นสง่าดอกศรีตรัง ปะการังใต้ทะเล เสน่ห์หาดทรายงาม น้ำตกสวยตระการตา" เป็นคำขวัญของจังหวัดตรัง วันนี้ทีมงานรถรับจ้าง อยากจะขอแนะนำจังหวัดอีกหนึ่งจังหวัด ให้ท่านได้รู้จักมากขึ้น นั่นก็คือจังหวัดตรัง ใครๆก็ทราบดีอยู่แล้วว่าจังหวัดตรังเป็นจังหวัดที่ มีความเจริญทางด้านเศรษฐกิจ อีกแห่งหนึ่งของภาคใต้ มีสถานที่สำคัญมากมายให้ท่านได้มาทำความรู้จักกับจังหวัดแห่งนี้ ซึ่งทีมงาน รถขนของรับจ้างในเขตจังหวัดตรัง ของเราอยากจะขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในจังหวัดตรัง อย่ามากมาย หากว่าเมื่อใดที่ท่านไหนมาจังหวัดนี้ จะได้จัดทริป มาเที่ยวสถานที่ต่างๆ ได้ครบ ซึ่งเราจะ ขอนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวบางส่วนให้ท่านได้ทำความรู้จัก ดังนี้

1.ถ้ำเขากอบ (ถ้ำเลเขากอบ)

2.สวนพฤกษศาสตร์ภาคใต้ทุ่งค่าย

3.หาดปากเมง

4.อนุสาวรีย์พระรัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี

5.ถนนคนเดินตรัง

6. Wat Phukhao Thong

7.วนอุทยานบ่อน้ำร้อนกันตัง

สำหรับใครที่มาเที่ยวยังจังหวัดตรังแล้ว ต้องใช้ บริการรถรับจ้างขนของจังหวัดตรัง ท่านสามารถติดต่อเข้ามาขอใช้บริการกับทีมงานของเราได้ ไม่ว่าท่านจะ ย้ายบ้าน ย้ายที่อยู่ ขนย้ายวัสดุก่อสร้าง ขนย้ายวัตถุดิบทางการเกษตรไม่ว่าจะเป็น ผัก ผลไม้ สินค้าพืชไร่ ขนย้ายออฟฟิศ ขนย้ายไซต์งานก่อสร้าง หรือรับจ้างขนย้ายทั่วไปอื่นๆอีกมากมาย เราให้บริการท่านทุกวันไม่มีวันหยุด โดยบริการรถรับจ้างที่ดีและราคาไม่แพงสนใจเรียกใช้บริการกับเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง ได้


ให้บริการที่ ซื่อตรง ปลอดภัย ด้วยใจบริการ ที่เป็นเยี่ยม

เรามีพนักงานยกสินค้าไว้คอยบริการสำหรับท่านที่มีความกังวลว่า งานขนย้ายสินค้าของท่านมีปริมาณที่มาก แต่ท่านไม่มีเพื่อนหรือใครช่วยยกสินค้าเลยจะไปจ้างคนทั่วไปก็ราคาแพงจะจ้างวินมอเตอร์ไซค์มาช่วยยกก็เกรงว่าสินค้าจะแตกชำรุดเสียหายเพราะไม่มีความชำนาญในการขนย้าย ทุกปัญหาของท่านจะหมดไป เมื่อเรามีทีมให้บริการคนยกสินค้าไว้คอยบริการลูกค้าทุกคน

เรามีความชำนาญในงานขนย้ายมาก เพราะเราบริการรับจ้างขนย้ายมากกว่า 15 ปี พนักงานขนของเราทุกคนดีจริง และมีการวางแผนการยกสินค้า ในแต่ละชนิดให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี จึงทำให้งานขนย้ายที่ผ่านมากว่า 1,000งาน ต้องบอกเลยว่า ไม่เคยมีงานอะไรที่เราทำให้สินค้าของลูกค้าชำรุดแตกเสียหายเลย ถือว่าเป็นความภูมิใจในการบริหารการจัดการ รถขนย้ายรับจ้างที่ดี ให้กับลูกค้า และลูกค้าก็เกิดความพึงพอใจกับงานบริการรถขนของรับจ้าง จังหวัดตรังของเรา

จุดบริการรถขนของรับจ้างในเขตจังหวัดตรังของเรามีจุดพื้นที่ให้บริการตามอำเภอต่างๆดังนี้

รถขนย้ายของรับจ้างทั่วไปอำเภอเมืองตรัง

รถขนย้ายของรับจ้างทั่วไปอำเภอ กันตัง

รถขนย้ายของรับจ้างทั่วไปอำเภอนาโยง

รถขนย้ายของรับจ้างทั่วไปอำเภอปะเหลียน

รถขนย้ายของรับจ้างทั่วไปอำเภอย่านตาขาว                   

รถขนย้ายของรับจ้างทั่วไปอำเภอรัษฎา

รถขนย้ายของรับจ้างทั่วไปอำเภอวังวิเศษ

รถขนย้ายของรับจ้างทั่วไปอำเภอ สิเกา

รถขนย้ายของรับจ้างทั่วไปอำเภอ หาดสำราญ

รถขนย้ายของรับจ้างทั่วไปอำเภอ ห้วยยอด

อยากใช้บริการ รถรับจ้างขนย้ายของในจังหวัดตรังราคาถูก ต้องทำไง? ไม่ยากเลย หากท่านเป็นอีกคนหนึ่งที่มีการวางแผนงานขนย้ายล่วงหน้าเช่นท่านรู้อยู่แล้วว่าท่านจะต้องขนย้ายสินค้า ไปยังอีกที่หนึ่งวันไหนเวลาใด ท่านก็สามารถโทรเข้ามาจองคิวรถรับจ้างราคาถูกกับเราได้ตลอด 24 ชั่วโมงเราเปิดให้บริการรับจองคิวรถที่มีราคาถูก ในแต่ละวัน แต่ต้องขอเรียนแจ้งก่อนว่า รถเที่ยวกับราคาถูก นี้ ท่านควรที่จะจองก่อนล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 วัน เพราะหากท่านจองในวันเดินทาง เราเกรงว่า เราจะไม่สามารถจัดคิวรถให้กับท่านได้ทันหรือคิวรถรถเที่ยวถูกนี้ได้ถูกจองเต็มไปหมดแล้ว เราไม่อยากให้ท่านต้องเสียสิทธิ์ ในเมื่อท่านมีแผนงานที่จะขนย้ายที่ชัดเจนอยู่แล้วเราจึงแนะนำว่าท่านควรที่จะเข้ามาจองคิวรถเที่ยวนี้ไว้แต่เนิ่นๆจะดีที่สุด

สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณ ทุกงานขนย้ายที่มอบโอกาสดีๆให้กับทางเราให้เราได้เข้าไปรับใช้ท่าน เรามีความดีใจ และสุขใจเป็นอย่างมาก ที่งานที่เราถนัด งานที่เรารัก ได้เข้าไปมีโอกาสช่วยเหลือลูกค้าทุกคน ที่ต้องการย้ายของกับเราให้เกิดความสำเร็จในการขนย้าย ตั้งใจว่า เราจะพัฒนา ฝีมือและงานบริการ รับจ้างขนของ นี้ให้ดียิ่งๆขึ้นไป ท่านไว้ใจกับเราได้เลย เมื่อมาใช้บริการรับจ้างขนย้ายของกับเรา ขอบคุณค่ะ

14
ผลข้างเคียงของการรับประทานอาหารเหลวใส อาหารสายยาง

อาหารเหลวใส ประกอบด้วยของเหลวที่ไม่มีชิ้นเนื้อปนอยู่ โดยอาจจะมีสี เช่น น้ำส้มหรืออาจจะมีรสชาติได้เล็กน้อย แต่ไม่ควรมีสิ่งใดลอยหรือตกตะกอนอยู่ภายในของเหลวนั้น อาหารชนิดนี้จะสามารถย่อยได้ง่ายและไม่ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานหนักจนเกินไป ซึ่งผู้ที่ต้องรับประทานอาหารเหลวใส ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ป่วยที่ไม่สามารถรับประทานอาหารเองได้หรือผู้สูงอายุที่มีปัญหาในเรื่องของการบดเคี้ยวอาหาร ทำให้ต้องรับประทานอาหารเหลวใส โดยทั่วไปแล้วอาหารเหล่านี้ จะสามารถรับประทานได้หากจำเป็นจะต้องได้รับอาหารเหลวใส

แต่ควรตรวจสอบกับแพทย์ทุกครั้งถึงข้อจำกัดต่างๆในการรับประทานอาหารเหลวใส นอกจากนี้หากผู้ที่มีความจำเป็นจะต้องรับประทานอาหารเหลวใส ควรจะต้องหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารประเภท นม ครีม น้ำซุปข้น น้ำผลไม้ที่ผสมเนื้อผลไม้และที่สำคัญที่สุด ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ซึ่งจะส่งผลเสียต่อร่างกายและอาการป่วยด้วย เพราะอาหารการกินถือเป็นเรื่องที่เราสามารถเลือกรับประทานได้ เพื่อให้เหมาะสมต่อความต้องการของร่างกาย รวมถึงปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานหรือผู้ที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงก็ควรเลือกรับประทานอาหารให้เหมาะสม ควรงดรับประทานอาหารที่มีรสหวานหรืออาหารที่มีส่วนผสมของน้ำตาลมากเกินไป เพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือด

หากป่วยเป็นโรคบางชนิดหรือกำลังจะต้องเข้ารับการผ่าตัดแพทย์ผู้ทำการรักษาอาจสั่งให้รับประทานอาหารเหลวใส โดยเป้าหมายของการรับประทานอาหารเหลวใส คือการกำจัดอาหารและของเหลือออกจากระบบทางเดินอาหารซึ่งอาหารเหลวใสมีความต่างกับอาหารธรรมดา เพราะมันสามารถเดินทางผ่านระบบทางเดินอาหารได้อย่างง่ายดาย และไม่ทิ้งสารตกค้างที่ไม่ถึงประสงค์ไว้ในลำไส้ แต่หากจำเป็นจะต้องรับประทานต้องมั่นใจว่าอาหารที่บริโภคเข้าไปนั้นถูกต้องและเหมาะสมกับร่างกายมากที่สุด

โดยปกติแล้วแพทย์ผู้ทำการรักษาจะเป็นคนสั่งให้กินอาหารเหลวใส อย่างไรก็ตามหากเลือกรับประทานอาหารประเภทนี้ จะต้องทำการปรึกษาแพทย์ก่อนว่าเราสามารถรับประทานอาหารเหลวใสได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ต้องสอบถามแพทย์ว่าจุดประสงค์ของการรับประทานอาหารเหลวใสคืออะไร ต้องรับประทานนานแค่ไหนและสามารถรับประทานอะไรได้บ้าง และต้องสอบถามเกี่ยวกับกิจกรรมต่าง ๆในชีวิตประจำวันว่าเราสามารถทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงได้หรือไม่

รวมไปถึงต้องสอบถามรายละเอียดถึงผลข้างเคียงต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างที่รับประทานอาหารเหลวใส ทั้งนี้อาหารเหลวใสเราสามารถหารับประทานได้ แต่ต้องเลือกรับประทานให้ถูกต้องถูกประเภท และเมื่อรับประทานอาหารเหลวใสแล้วต้องเตรียมรับมือกับคนข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นหลังจากรับประทานอาหาร เพราะอาหารเหลวใสบางชนิดอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงแต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราสามารถรับประทานอะไรได้บ้าง และต้องรับประทานอาหารเหลวใสนานแค่ไหน ซึ่งผลข้างเคียงมักมีอาการที่ไม่รุนแรงมาก เช่น อาจจะมีอาการหิวปวดหัว คลื่นไส้ อ่อนเพลีย และท้องร่วง

อย่างไรก็ตามหากมีอาการที่รุนแรงขึ้น เราต้องติดต่อแพทย์ทันทีว่า มีวิธีรับมืออย่างไรบ้าง โดยต้องแจ้งอาการว่าเริ่มมีอาการเมื่อไหร่และส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างไรบ้าง เพื่อทำการแก้ไขต่อไป เพราะบางครั้งการที่เราเลือกรับประทานอาหารเอง อาจจะเลือกรับประทานอาหารไม่ถูกต้องหรือไม่ถูกประเภทซึ่งอาหารจะส่งผลต่อร่างกายโดยตรง หากรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสมกับร่างกายก็อาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรงต่อร่างกายสำหรับผู้ป่วยหากเลือกรับประทานอาหารที่ผิดประเภทหรือไม่เหมาะสมกับโรคที่ป่วยอาจจะทำให้อาการป่วยแย่ลงซึ่งถือว่าเป็นอันตรายมาก

อย่างไรก็ตาม การรับประทานอาหารที่เหมาะสมถึงแม้ว่าจะรับประทานอาหารเหลวใสก็ยังมีอาหารบางชนิดที่เราสามารถรับประทานร่วมได้ การรับประทานอาหารเหล่านี้อาจจะทำให้รู้สึกอิ่มขึ้นในขณะที่รับประทานอาหารเหลวใส สำหรับอาหารที่เราสามารถรับประทานได้ก็คือ เยลลี่หรือไอศกรีมหวานเย็น ที่ไม่มีส่วนผสมจากนมและชิ้นส่วนของผลไม้ช็อกโกแลตถั่ว และอย่าลืมรับประทานของเหลวที่เป็นของคาว เช่น ซุปต่าง ๆ สำหรับการกระจายของเหลวที่มีแคลอรีสูงในระหว่างวัน

หากเราสามารถรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีแคลอรีสูงได้ ก็จะช่วยกระจายของเหลวไปในระหว่างวัน เพราะเมื่อเรารับประทานอาหารเหลวใสปริมาณแคลอรี่ที่ได้รับโดยรวมจะต่ำ ซึ่งอาจส่งผลให้น้ำตาลในเลือดต่ำไปด้วย ทำให้รู้สึกวิงเวียนศีรษะ มึนหัวหรืออาการครึ่งไส้ได้ สำหรับคนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานการรับประทานอาหารเหลวใส จะต้องปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาว่าควรดื่มเครื่องดื่มที่เพิ่มความหวานให้เพียงพอ เพื่อให้ได้รับพลังงานระหว่างวันหรือสอบถามว่าเราเหมาะสมที่จะรับประทานอาหารประเภทใด เพื่อให้เหมาะสมต่อความต้องการของร่างกาย เพราะถ้าหากรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป อาจส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นหรือมีน้ำหนักเกินได้

อย่างไรก็ตามเราขอสนับสนุนให้ทุกท่านรับประทานอาหารที่เหมาะสมและเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพื่อที่จะได้ปราศจากจากโรคภัยไข้เจ็บและยังทำให้มีสุขภาพจิต สุขภาพกายที่แข็งแรง สามารถรับมือกับปัญหาต่าง ๆในชีวิตประจำวันได้ ทั้งยังช่วยให้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุขและมีประสิทธิภาพ

15
เว็บลงโฆษณาฟรี / Doctor At Home: โรคด่างขาว (Vitiligo)
« เมื่อ: วันที่ 6 ตุลาคม 2025, 22:35:58 น. »
Doctor At Home: โรคด่างขาว (Vitiligo)

โรคด่างขาว เป็นภาวะที่ผิวหนังบางส่วนกลายเป็นรอยด่างขาว เนื่องจากผิวหนังในบริเวณนั้นไม่มีเซลล์สร้างเม็ดสี (melanocyte) จึงไม่สามารถสร้างเม็ดสี (pigment) ได้เป็นปกติเช่นเดียวกับผิวหนังส่วนที่อยู่โดยรอบ

พบได้ประมาณร้อยละ 1 ของคนทั่วไป พบได้ในคนทุกวัย พบมากในช่วงอายุ 10-30 ปี

บางครั้งอาจเกิดร่วมกับโรคภูมิต้านตัวเอง (autoimmune diseases) เช่น ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน ภาวะขาดไทรอยด์ เบาหวานชนิดที่ 1 โรคแอดดิสัน ผมร่วงเป็นหย่อมไม่ทราบสาเหตุ โรคปวดข้อรูมาตอยด์ เอสแอลอี โซริอาซิส (สะเก็ดเงิน) โรคโลหิตจางชนิดร้ายแรง (pernicious anemia ซึ่งเสี่ยงต่อโรคมะเร็งกระเพาะ) เป็นต้น

ประมาณร้อยละ 30 ของผู้ป่วย อาจพบว่ามีคนในครอบครัวเป็นด้วย

สาเหตุ

ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด สันนิษฐานว่าอาจเกี่ยวกับปฏิกิริยาภูมิต้านตนเอง กล่าวคือ ร่างกายมีการสร้างแอนติบอดีต่อเซลล์สร้างเม็ดสี (melanocyte) ทำให้เซลล์สร้างเม็ดสีตาย หรือสร้างเม็ดสี (melanin) ได้น้อยลง) ทำให้ผิวหนังกลายเป็นด่างขาว

นอกจากนี้ยังมีข้อสันนิษฐานอื่น ๆ เช่น อาจมีการกระตุ้นปลายประสาท ทำให้มีการหลั่งสารที่ทำลายเซลล์สร้างเม็ดสีหรือในกระบวนการสร้างเม็ดสี, หรืออาจมีการสะสมของเมตาบอไลต์ (metabolite) บางอย่างที่มีฤทธิ์ทำลายเซลล์สร้างเม็ดสี

ความผิดปกติของการสร้างเม็ดสี นอกจากเกิดที่ผิวหนังแล้วยังอาจเกิดที่เยื่อเมือกในจมูกและช่องปาก เนื้อเยื่อจอตา และส่วนอื่น ๆ ของร่างกายอีกด้วย


อาการ

เป็นผื่นราบสีขาว ขอบเขตชัดเจน มีรูปร่างไม่แน่นอน และมีขนาดต่าง ๆ กันไปตั้งแต่ 1 ซม. ถึง 10 ซม. ซึ่งอาจเกิดที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของผิวกายก็ได้ แต่มักจะเริ่มเกิดตรงบริเวณที่สัมผัสถูกแสงแดด เช่น ใบหน้า ริมฝีปาก แขน มือ และหลังเท้า โดยมักจะมีลักษณะการกระจายตัวทั้ง 2 ข้างของร่างกายสมมาตรกัน (เช่น ขึ้นที่หลังมือพร้อมกันทั้งซ้ายและขวา) ขอบของวงด่างขาวจะมีลักษณะโค้งหรือนูนออก จึงทำให้ผิวหนังส่วนที่ปกติที่อยู่โดยรอบมีลักษณะตรงกันข้าม คือ เว้าเข้า ขนหรือผมที่ขึ้นอยู่ในรอยด่างขาวจะกลายเป็นสีขาวเช่นกัน

เมื่อถูกแดด มักจะมีอาการแพ้แดดได้ง่าย ทำให้รอยด่างขาวออกแดงและแสบร้อนได้

แต่โดยปกติจะไม่มีอาการคันหรือปวดแสบปวดร้อนแต่อย่างใด และยังมีการรับรู้ความรู้สึกได้เป็นปกติ (รู้สึกเจ็บเมื่อถูกเข็มแทง)

รอยด่างขาวมักจะลามออกไปอย่างช้า ๆ บางรายจะเป็นเฉพาะที่ บางรายอาจมีรอยด่างขาวกระจายไปเกือบทั่วตัว

ผู้ป่วยอาจมีผม คิ้ว ขนตา และหนวดเครางอกขาว ซึ่งมักเกิดตั้งแต่อายุยังน้อย และมีรอยด่างขาวที่เยื่อเมือกในจมูกและช่องปากร่วมด้วย

บางรายพบว่ารอยด่างขาวสามารถหายได้เองหลังจากเป็นอยู่เป็นแรมเดือนแรมปี ซึ่งก็พบได้เป็นส่วนน้อย


ภาวะแทรกซ้อน

เกิดความรู้สึกว่าไม่สวยงาม ซึ่งอาจทำให้รู้สึกอายหรือมีปมด้อย

นอกจากนี้ อาจทำให้เกิดอาการผิวไหม้จากการถูกแดด (sunburn) ง่าย และยังมีความเสี่ยงมากขึ้นต่อการเป็นโรคตา (เช่น ต้อหิน  ม่านตาอักเสบ) หูตึงจากประสาทหูเสื่อม


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ

บางรายแพทย์อาจทำการตัดชิ้นเนื้อของผิวหนังไปตรวจทางห้องปฏิบัติการ และอาจทำการตรวจเลือดดูว่ามีปฏิกิริยาภูมิต้านตัวเอง (ออโตอิมมูน) หรือไม่


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

ถ้าเป็นไม่มาก ไม่ต้องทำอะไร เพราะไม่มีอันตรายแต่อย่างใด

แต่ถ้าเป็นมากหรือลุกลามจนน่าเกลียด แพทย์อาจให้ยารักษา ได้แก่ ซอลาเรน (psolaren) ซึ่งมีทั้งชนิดกินและทา

สำหรับชนิดกิน ผู้ใหญ่ให้กินครั้งละ 3 เม็ด ในตอนเช้าก่อนจะอาบแดด 2 ชั่วโมง แล้วจึงให้ผิวหนังส่วนที่เป็นด่างขาวอาบแดด (ควรจะเป็นช่วง 09.00 นาฬิกา) ในวันแรกควรอาบนาน 5 นาทีก่อน แล้วครั้งต่อไปค่อย ๆ เพิ่มขึ้นอีกวันละ 5 นาที จนกระทั่งนานเป็น 15-30 นาที ควรทำสัปดาห์ละ 3 วัน

สำหรับชนิดทา มีชนิด 1% ซึ่งแรงไป ควรใช้น้ำผสมเจือจางเป็น 0.1% (ใช้ยา 1 ส่วนผสมน้ำ 9 ส่วน) แล้วใช้พู่กันเล็ก ๆ ทาเฉพาะที่เป็น ทิ้งไว้สัก 1/2-1 ชั่วโมง แล้วจึงอาบแดดตามวิธีดังกล่าว

ควรระวังอย่าอาบแดดนานเกินไป อาจทำให้ผิวหนังพองเป็นตุ่มน้ำได้ อาจต้องใช้ครีมสเตียรอยด์ทาหลังอาบแดดเพื่อป้องกันมิให้ผิวหนังพอง

ถ้ามีตุ่มพอง ควรหยุดใช้ซอลาเรน แล้วทาด้วยครีมสเตียรอยด์จนกว่าจะหาย แล้วจึงเริ่มใช้ซอลาเรนใหม่ แต่ควรลดเวลาอาบแดดลง

ถ้าได้ผล ผิวหนังส่วนนั้นจะเริ่มแดงก่อน ต่อมาจะมีสีคล้ำ โดยเริ่มจากบริเวณรอบ ๆ ขนก่อน แล้วจะค่อย ๆ ขยายกว้างออกไป

ในรายที่ไม่สะดวกที่จะใช้วิธีอาบแดด แพทย์อาจใช้วิธีฉายแสงอัลตราไวโอเลตเอ (UVA) แทนการอาบแดด

ระยะเวลาของการรักษา อาจนานถึง 2-3 ปี บางรายหลังหยุดยา ผิวสีอาจกลับขาวได้อีก

บางราย หากใช้วิธีดังกล่าวไม่ได้ผล อาจต้องเปลี่ยนไปใช้วิธีอื่นแทน เช่น การผ่าตัดปลูกถ่ายผิวหนัง (skin graft)


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีรอยด่างขาวตามผิวหนัง ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคด่างขาว ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ 
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้โรคกำเริบมากขึ้น เช่น การออกกลางแดดจ้าหรือถูกแดดมากเกินไป (ถ้าเลี่ยงไม่ได้ให้ทายากันแดด), การสัมผัสสารเคมี, ความเครียด เป็นต้น
    หลีกเลี่ยงการซื้อยาที่นอกเหนือจากที่แพทย์แนะนำมาใช้เอง
    หลีกเลี่ยงการสักบนผิวหนังตามร้านสักทั่วไป อาจทำให้โรคลุกลามมากขึ้นได้


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลาใน 1-2 สัปดาห์
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ


การป้องกัน

ยังไม่มีวิธีป้องกันที่ได้ผล เนื่องจากโรคนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด

ควรป้องกันไม่ให้โรคลุกลาม โดยการไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษาแต่เนิ่น ๆ เมื่อสังเกตว่ามีอาการที่น่าสงสัย และดูแลรักษาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างจริงจัง


ข้อแนะนำ

1. ควรแยกโรคด่างขาวออกจากเกลื้อน โรคเรื้อน และกลากน้ำนม โดยที่โรคด่างขาวมักจะขึ้นกระจายคล้ายคลึงกันทั้ง 2 ข้างของร่างกาย มีขอบเขตชัดเจน ไม่คัน ไม่ชา (เข็มแทงจะรู้สึกเจ็บ) และมักเป็นเรื้อรังตลอดชีวิต

เกลื้อนมักขึ้นเป็นรอยแต้ม ๆ มีสีต่าง ๆ มีขุยบาง ๆ และหลุดออกเมื่อใช้เล็บขูด เมื่อใช้ยารักษาเกลื้อนก็มักจะหายได้เป็นพัก ๆ

โรคเรื้อนจะเป็นวงด่างซึ่งจะไม่มีขน ไม่มีเหงื่อ และชา (หยิกหรือเข็มแทงไม่เจ็บ)

ส่วนกลากน้ำนม มักพบในเด็กและวัยรุ่น วงด่าง มีขอบเขตไม่ชัดเจนและมีขุยบาง ๆ เมื่อโตขึ้นจะหายได้เอง

2. โรคด่างขาวไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ จึงไม่ติดต่อให้ผู้อื่น

3. โรคนี้บางครั้งอาจพบร่วมกับโรคภูมิต้านตัวเองอื่น ๆ (เช่น เบาหวานชนิดที่ 1 ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน ภาวะขาดไทรอยด์ โรคแอดดิสัน ผมร่วงเป็นหย่อมไม่ทราบสาเหตุ โรคปวดข้อรูมาตอยด์ เอสแอลอี เป็นต้น) และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนทางตาและหู นอกจากดูแลรักษาโรคด่างขาวแล้ว แพทย์จะทำการตรวจดูโรคเหล่านี้ หากพบก็จะให้การดูแลรักษาพร้อมกันไปด้วย

หน้า: [1] 2 3 ... 29


























































อยากขายของดี
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
ขายสินค้าไม่สต๊อกสินค้า
เริ่มขายของออนไลน์
รับทำ seo ด่วน
smf โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์อะไรดี
smf โพสฟรี
แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์ โพสฟรี
โพสฟรีแคปชั่นโพสขายของยังไงให้ปัง
smf แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์
ขายของให้ออร์เดอร์เข้ารัว ๆ
smf โพสต์เรียกลูกค้า
โพสต์เรียกลูกค้าโพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ให้ปัง
smf โพสต์ขายของ
smf เขียนโพสขายของโดนๆ
แคปชั่นเปิดร้าน โพสฟรี
smf วิธีโพสขายของให้น่าสนใจ
วิธีเพิ่มยอดขาย โพสฟรี
smf เทคนิคเพิ่มยอดขาย
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
smf เริ่มต้นขายของออนไลน์
ไอ เดีย การขายของออนไลน์
เว็บขายของออนไลน์
เริ่ม ขายของออนไลน์ โพสฟรี
อยากขายของออนไลน์ smf
โพสขายของยังไงให้มีคนซื้อ
smf โพสขายของแบบไหนดี
smf ขายของออนไลน์ที่ไหนดี
เทคนิคการโพสต์ขายของ
smf โพสต์ขายของให้ยอดขายปัง
โพสต์ขายของให้ยอดขายปังโพสฟรี
smf ขายของในกลุ่มซื้อขายสินค้า
ไม่รู้จะขายอะไรดี

เพิ่มยอดขายให้เข้าเป้า
โปรโมทผลักดันยอดขาย
โปรโมทแผนการเพิ่มยอดขายให้ได้ผล
โปรโมทวิธีการวางแผนการเพิ่มยอดขาย
มีลูกค้าเพิ่ม - YouTube
ผลักดันยอดขายโปรโมทฟรี
ประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศเพิ่มยอดขาย
ฝากร้านฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ เพิ่มยอดขาย
เว็บประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
Post ฟรี
ประกาศขายของฟรี
ประกาศฟรี
โพส SEO
ลงโฆษณาฟรี
โปรโมทเพจร้านค้า
โปรโมทกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทฟรีออนไลน์กระตุ้นยอดขาย
โพสกระตุ้นยอดขาย
วิธีกระตุ้นยอดขาย เซลล์
วิธีแก้ปัญหายอดขายตก
เริ่มต้นขายของ
แหล่งรับของมาขายออนไลน์
ขายของออนไลน์อะไรดี
อยากขายของออนไลน์
ยอดขายไม่ดีควรทำอย่างไร
ยอดขายตกเกิดจากอะไร
ทำไมต้องเพิ่มยอดขาย
ขายฟรี
ยอดการขาย คืออะไร
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
โพสฟรีการกระตุ้นยอดขาย
เว็บบอร์ดฟรี
โปรโมทฟรี

กลยุทธ์การหาลูกค้าใหม่
ทํายังไงให้ขายของดี ออนไลน์
วิธีการหาลูกค้าของ sale
ทำ SEO ติด Google
ต้องการขาย
ปล่อยเช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน
ขายบ้าน คอนโด ที่ดิน
ประกาศฟรี ไม่มี หมดอายุ
เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ
ฝากร้านฟรี โพ ส ฟรี
ลงประกาศฟรี กรุงเทพ
ลงประกาศฟรี ทั่วไทย
ลงประกาศโฆษณาฟรี
ลงประกาศฟรี 2023
รวมเว็บลงประกาศฟรี
วิธีหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
การหาลูกค้าใหม่ รักษาลูกค้าเก่า
ช่องทางการเข้าถึงลูกค้า
เพิ่มฐานลูกค้าใหม่
รวมเว็บลงประกาศฟรี ล่าสุด
รวมเว็บประกาศฟรี
โพสต์ขายของฟรี
ลงโฆษณาสินค้าฟรี
โฆษณาฟรี
ประกาศฟรี
เว็บฟรีไม่จำกัด
ลงประกาศขาย
เว็บฟรียอดนิยม
โพสโฆษณา
ประกาศขายของ
ประกาศหางาน
บริการ แนะนำเว็บ
ลงประกาศ
รวมเว็บประกาศฟรี
รวมเว็บซื้อขาย ใช้งานง่าย
ลงประกาศฟรี ทุกจังหวัด

โพสขายสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย
โฆษณาเลื่อนประกาศได้
ขายของออนไลน์
แนะนำ 6 วิธีขายของออนไลน์
อยากขายของออนไลน์
เริ่มต้นขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์ เริ่มยังไง
ชี้ช่องขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์
สร้างเว็บฟรีประกาศ
เว็บบอร์ด โพสต์ฟรี
ลงประกาศ ซื้อ-ขาย ฟรี
ชุมชนคนไอทีขายสินค้า
ลงประกาศฟรีใหม่ๆ 2023
โปรโมทธุรกิจฟรี
ทําไงให้ลูกค้าเข้าร้านเยอะ ๆ
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
เคล็ดลับขายของดี
ค้าขายไม่ดีทำอย่างไรดี
งานโพสโปรโมทงาน
ทํายังไงให้ขายของดี ออนไลน์
รวม SMFขายสินค้า
ประกาศฟรีออนไลน์
ลงประกาศ สินค้า
ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด
เว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ฟรี เว็บบอร์ด แรงๆ
โปรโมทสินค้าฟรี
แจกฟรี รายชื่อเว็บลงประกาศฟรี
โปรโมท Social
โปรโมท youtube
แจกฟรี รายชื่อเว็บ
แจกฟรีโพสเว็บบอร์ดsmf
เว็บบอร์ดsmfโพสฟรี
รายชื่อเว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
หากลยุทธ์เพิ่มยอดขาย